'พีท เฮกเซธ' เตรียมเพิ่มความยืดหยุ่นกองทัพสหรัฐในเกาหลีใต้ รับมือภัยคุกคามภูมิภาค

พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ เปิดเผยระหว่างเดินทางเยือนกรุงโซลในวันอังคาร (4 พ.ย.) ว่า สหรัฐจะพิจารณาเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่กองกำลังที่ประจำการในเกาหลีใต้ เพื่อให้สามารถปฏิบัติการต่อต้านภัยคุกคามในระดับภูมิภาคได้ แต่ยืนยันว่าภารกิจหลักของพันธมิตรยังคงเป็นการป้องปรามเกาหลีเหนือ

เฮกเซธกล่าวถ้อยแถลงร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ ภายหลังเดินทางไปยัง เขตปลอดทหาร (DMZ) บริเวณ พรมแดนเกาหลีเหนือ

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่กองกำลังทหารสหรัฐจำนวน 28,500 นายในเกาหลีใต้ อาจถูกใช้ในความขัดแย้งนอกคาบสมุทร ซึ่งรวมถึงกรณีพิพาทกับจีน เฮกเซธกล่าวว่า เป้าหมายหลักของพันธมิตรคือการรับมือกับเกาหลีเหนือซึ่งมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง แต่ก็จะพิจารณาเรื่องความยืดหยุ่นเพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินในภูมิภาค

ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สหรัฐได้แสดงท่าทีชัดเจนถึงแผนการปรับบทบาทกองกำลังสหรัฐให้มีความยืดหยุ่นยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถปฏิบัติการนอกคาบสมุทรเกาหลีสำหรับรับมือภัยคุกคามในวงกว้าง อาทิ การปกป้องไต้หวัน และการคานอำนาจทางทหารจีนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นแนวคิดที่ฝ่ายเกาหลีใต้ยังคงคัดค้าน

ทั้งนี้ เกาหลีใต้ได้มุ่งมั่นพัฒนาขีดความสามารถในการป้องกันประเทศของตนเองตลอด 20 ปีที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการรับมอบอำนาจบัญชาการกองกำลังผสมสหรัฐ-เกาหลีใต้ ในภาวะสงคราม

เฮกเซธยังกล่าวด้วยว่า ทั้งสองฝ่ายกำลังจัดทำแถลงการณ์ร่วม ซึ่งคาดว่าจะครอบคลุมประเด็นการเจรจาเรื่องค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศ และได้มีการหารือให้เกาหลีใต้เพิ่มการลงทุนทางทหารให้สูงขึ้น นอกจากนี้ ทั้งสองชาติยังได้บรรลุข้อตกลงให้เกาหลีใต้เป็นผู้รับผิดชอบการบำรุงรักษาและซ่อมแซมเรือรบของสหรัฐ เพื่อให้เรือรบเหล่านั้นสามารถประจำการอยู่ในภูมิภาคและมีความพร้อมปฏิบัติการได้ทันที

ส่วนประเด็นการสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของเกาหลีใต้ เฮกเซธระบุว่า การตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะให้การสนับสนุนนั้น มีแรงผลักดันจากความปรารถนาที่จะมีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง

ด้านอัน กยู-บัก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ได้กล่าวยืนยันถึงสถานะของเกาหลีใต้ในฐานะรัฐภาคีของสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT) เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับความกังวลว่าเกาหลีใต้อาจพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เป็นของตนเอง

“ดังนั้น จะไม่มีการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ในสาธารณรัฐเกาหลี” อัน กยู-บัก กล่าว