‘สี จิ้นผิง’ พบนายกฯ รัสเซีย 'เล็งขยายลงทุนร่วม-ยกระดับสัมพันธ์สูงขึ้นอีก'

‘สี จิ้นผิง’ พบนายกฯ รัสเซีย 'เล็งขยายลงทุนร่วม-ยกระดับสัมพันธ์สูงขึ้นอีก'

"นายกรัฐมนตรีมิคาอิล มิชูสตินของรัสเซีย" เข้าพบ "ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน" สีลั่นจะขยายลงทุนร่วมกับรัสเซีย พร้อมยกระดับความสัมพันธ์สูงขึ้นอีก

สื่อรัฐบาลจีนรายงานวันอังคาร (4 ต.ค.) ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ให้คำมั่นมุ่งขยายการลงทุนร่วมกับรัสเซีย และยืนยันความมุ่งมั่นของปักกิ่งในการยกระดับความสัมพันธ์กับรัสเซีย แม้สถานการณ์ภายนอกมีความปั่นป่วน

ปธน.สี ได้พบกับนายกรัฐมนตรีมิคาอิล มิชูสตินิของรัสเซีย ณ มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง หนึ่งวันหลังจากนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียงของจีนจัดประชุมร่วมกับมิชูสตินในหางโจวเรื่องความต้องการเสริมแกร่งความร่วมมือกับรัสเซียและปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงร่วมกัน

ด้านเครมลินก็เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเยือนของมิชูสตินในช่วงเวลาที่รัสเซียตกอยู่ภายใต้การคว่ำบาตรของชาติตะวันตกเนื่องจากทำสงครามกับยูเครน และกำลังหาทางหยุดยั้งการชะลอตัวของการค้ากับจีนเมื่อเร็วๆ นี้

ตามรายงานของสำนักข่าว CCTV สีกล่าวกับมิชูสติน

“ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียยังคงมุ่งหน้าสู่ระดับสูงขึ้น และมีคุณภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้สภาพแวดล้อมภายนอกปั่นป่วน”

สี จิ้นผิง เสริมอีกว่า การปกป้องคุ้มครอง การเสริมสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์จีน-รัสเซียเป็นทางเลือกเชิงกลยุทธ์ของทั้งสองฝ่าย

ผู้นำจีนยังได้ย้ำถึงอุตสาหกรรมหลายภาคส่วน อาทิ พลังงาน เกษตร การบินและอวกาศ เศรษฐกิจดิจิทัล และการพัฒนาสีเขียว ว่าเป็นโอกาสที่ทั้งสองประเทศสามารถยกระดับความร่วมมือและเดินหน้าเครื่องยนต์แห่งการเติบโตใหม่

ตามรายงานของสำนักข่าวทาสของรัสเซียมิชูสตินกล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยต่อการดึงดูดการลงทุนร่วมกันและสนับสนุนโครงการร่วมกันต่อไป

ในแถลงการณ์ร่วมที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของรัฐบาลรัสเซียในวันอังคาร ระบุว่า ทั้งสองประเทศตกลงที่จะ “เสริมสร้างความร่วมมือในทุกด้านและตอบสนองต่อความท้าทายภายนอกอย่างเหมาะสม”

รัสเซียยังได้ยืนยันอีกครั้งถึงการยึดมั่นในหลักการ “จีนเดียว” และการต่อต้าน “เอกราชไต้หวัน

อนึ่ง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2565 สี จิ้นผิง และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือแบบ “ไร้ขีดจำกัด” ไม่กี่วันก่อนที่ปูตินจะส่งทหารหลายหมื่นนายเข้าไปในยูเครน