หุ้น BYD ร่วงต่ำสุดรอบ 9 เดือน กังวลยอดขายวูบสองเดือนติด

หุ้น BYD ร่วงต่ำสุดรอบ 9 เดือน กังวลยอดขายวูบสองเดือนติด

หุ้นรถอีวีจีนเบอร์ใหญ่ BYD ร่วงเกือบแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน หลังบริษัทรายงานยอดขายลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง เสียที่นั่งแชมป์อีวีให้ SAIC

วันนี้ (3 พ.ย. 68) ราคาหุ้นของบริษัท "บีวายดี" (BYD Co.) ค่ายรถยนต์รายใหญ่ในจีน ร่วงลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน หลังผู้ผลิตรถยนต์รายนี้รายงานยอดขาย "ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง" และตกไปอยู่ "อันดับ 2" ของตลาดจีนอีกครั้ง

ราคาหุ้น BYD ในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดฮ่องกงลดลง 1.9% มาอยู่ที่ 98.70 ดอลลาร์ฮ่องกง และมีแนวโน้มจะปิดตลาดในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. และร่วงลงไปแล้วถึงราว 36% จากระดับสูงสุดในช่วงปลายเดือนพ.ค.

ทั้งนี้ ยอดขายของ BYD ในเดือนต.ค. ปรับตัวลดลง 12% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 441,706 คัน 

ยอดขายล่าสุดที่ปรับตัวลงตอกย้ำกระแสข่าวร้ายต่อเนื่องสำหรับ BYD หลังจากเคยได้ชื่อว่าเป็นหุ้นเติบโตพุ่งแรง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว BYD ได้รายงานกำไรรายไตรมาสลดลงติดต่อกันเป็นครั้งที่สอง หลังทางการจีนได้เข้าควบคุมการแข่งขันเรื่องสงครามราคา ซึ่งส่งผลให้เครื่องมือสำคัญในกลยุทธ์การตลาดของบริษัทต้องสะดุดลง

นอกจากนี้ BYD ยังสูญเสียตำแหน่ง “แบรนด์รถยนต์ขายดีที่สุดในจีน” ให้กับ "SAIC Motor Corp." ซึ่งส่งมอบรถยนต์ได้ 453,978 คันในเดือนที่แล้ว

อีกประเด็นที่น่ากังวลสำหรับ BYD ก็คือ แม้เดือนต.ค. จะเป็นเดือนที่มียอดขายดีที่สุดของปี แต่บริษัทต้องทำยอดขายให้สูงกว่านี้ในเดือนพ.ย. และ ธ.ค. เพื่อให้บรรลุประมาณการยอดขายทั้งปีราว 4.6 ล้านคัน โดยการประเมินของมอร์แกน สแตนลีย์ พบว่า ยอดขายสะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 3.7 ล้านคัน ซึ่งหมายความว่าบริษัทต้องส่งมอบรถยนต์เฉลี่ย 450,000 คันต่อเดือน ในช่วงที่เหลือของปีเพื่อให้ถึงเป้าหมาย

ด้าน Bloomberg Intelligence วิเคราะห์ว่า ยอดส่งมอบรถยนต์ของ BYD ในไตรมาส 4 อาจลดลง 5–10% หลังจากที่ยอดขายเดือนต.ค. ลดลง 12% อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่า BYD ยังสามารถบรรลุเป้าหมายรายปีที่ลดลงเหลือ 4.6 ล้านคันในปีนี้ได้ หากบริษัทสามารถรักษาอัตราการขายในปัจจุบันไว้ได้

ทางด้านบริษัทรถยนต์แบรนด์อื่นๆ อาทิ Geely, Nio, Xpeng และ Leapmotor ต่างรายงานยอดขายรายเดือนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนต.ค. ขณะที่ผู้เล่นรายใหม่อย่าง Xiaomi ก็รายงานยอดขายรายเดือนที่แข็งแกร่งอีกครั้ง ในขณะที่ Li Auto ยังคงมีปัญหาโดยยอดส่งมอบลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ห้า