ECB คงดอกเบี้ยที่ 2% ย้ำไม่รีบร้อนเปลี่ยนนโยบาย หลัง ‘เงินเฟ้อ’ ถึงเป้า

ECB ประกาศคงดอกเบี้ยที่ 2%
ย้ำไม่รีบร้อนเปลี่ยนนโยบาย หลัง ‘เงินเฟ้อ’ ถึงเป้า
ชี้ข้อตกลงการค้าช่วยลดความเสี่ยงเศรษฐกิจโลก แต่ยังกังวลภาคอุตสาหกรรม
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตัดสินใจ คงอัตราดอกเบี้ย หลักไว้ที่ 2% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 ในการประชุมวานนี้(30ต.ค.) โดยไม่มีการส่งสัญญาณใด ๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายในอนาคตท่ามกลางภาวะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับเป้าหมายและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคง แม้จะมีความผันผวนทางการค้าก็ตาม
ธนาคารกลางของ 20 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวม 2% ในปีที่สิ้นสุดเดือนมิถุนายน แต่ได้คงนโยบายไว้ตั้งแต่นั้นมา และระบุอย่างชัดเจนว่า “ไม่รีบร้อน” เนื่องจากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในเป้าหมายแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ธนาคารกลางอื่นๆ เช่น เฟด , ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ หรือธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น ยังไม่สามารถทำได้
คริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB กล่าวว่า ข้อตกลงทางการค้าล่าสุด รวมถึงการประกาศของสหรัฐที่จะลดภาษีนำเข้าจากจีนหลังการพบปะระหว่างประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” และ ”สี จิ้นผิง” ได้ช่วยลดความเสี่ยงด้านลบต่อเศรษฐกิจโลกได้บ้าง แต่ยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่มาก
"จะไม่บ่นมากเกินไปเกี่ยวกับการเติบโตในช่วงเวลานี้" โดยอ้างถึงข้อมูลที่เผยแพร่ในวันเดียวกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจยูโรโซนเติบโตสูงกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อยที่ 0.2% ในไตรมาสที่ 3 โดยเฉพาะอย่างยิ่งสเปนและฝรั่งเศสมีผลงานที่โดดเด่น
แถลงการณ์ของคณะกรรมการกำกับดูแล ECB ชี้ว่า ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง งบดุลภาคเอกชนที่มั่นคง และผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอดีต ล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วย พยุงเศรษฐกิจ สะท้อนให้เห็นถึง "ความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ"
แม้จะมีสัญญาณที่ดีขึ้นในหลายด้าน เช่น ตัวเลข GDP ที่ดีกว่าคาด กิจกรรมทางธุรกิจ (PMI) ที่เร่งตัวขึ้น และความเชื่อมั่นในเยอรมนีที่ดีขึ้น แต่ก็ยังถูกถ่วงดุลด้วยข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า อุตสาหกรรมยังคงประสบปัญหา การส่งออกไปยังสหรัฐลดลง และมีสัญญาณว่าจีนกำลังส่งออกสินค้าที่ขายไม่ได้ในสหรัฐมายังตลาดยุโรป
อ้างอิง Nikkei







