เปิดเหตุผล ทำไม 'ทรัมป์-สี' ปลีกวิเวกหารือในปูซาน แทนเมืองจัดงานเอเปค

การเจรจาระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ นอกรอบการประชุมเอเปคที่ทุกคนรอคอย จะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 30 ต.ค. ในเมืองปูซาน เกาหลีใต้ ห่างจากคย็องจู เมืองจัดงานประชุมเอเปค 85 กิโลเมตร และสาเหตุที่ปธน.สหรัฐ-จีน ต้องไปปูซาน อาจพิจารณาจากเรื่องความมั่นคง ในขณะที่ทั้งสองกำลังพยายามเคลียร์ประเด็นต่างๆ ที่ทำให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีตึงเครียด

กระทรวงการต่างประเทศจีน ประกาศในวันพุธ (29 ต.ค.) ว่า สีและทรัมป์จะพบกันที่ปูซานเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองความสัมพันธ์ทวิภาคีและประเด็นต่างๆ ที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสนใจร่วมกัน

กัว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า สองผู้นำจะเข้าร่วมการหารือเชิงลึกในประเด็นที่เป็นยุทธศาสตร์และมีระยะยาว รวมถึงหัวข้อสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสนใจร่วมกัน

“เราตั้งใจจะทำงานร่วมกับฝ่ายสหรัฐเพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะเกิดผลลัพธ์ที่เป็นบวกจากการหารือครั้งนี้ โดยจะเสนอแนวทางใหม่และสร้างแรงผลักดันใหม่ให้กับการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐที่มั่นคง” กัว กล่าว

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า ทรัมป์อาจเดินทาไปปูซานและพบกับปธน.สีที่นั่นในวันพฤหัสบดี ก่อนเดินทางกลับกรุงวอชิงตัน

เกาหลีใต้เป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายในทริปเยือนเอเชียของทรัมป์ ซึ่งเริ่มต้นเมื่อวันอาทิตย์ (26 ต.ค.) โดยเดินทางไปเยือนมาเลเซียที่แรก และต่อด้วยญี่ปุ่น ก่อนไปยังเกาหลีใต้

สำนักข่าวเซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์รายงานว่า ทรัมป์อาจออกจากเกาหลีใต้วันพฤหัสบดี ขณะที่สีจะเดินทางถึงเกาหลีใต้ในวันเดียวกัน และกลับจีนวันเสาร์ (1 พ.ย.)

ด้านประธานาธิบดีอี แจ-มยอง ของเกาหลีใต้มีกำหนดการประชุมร่วมกับทรัมป์ในวันพุธ และประชุมร่วมกับสีในวันเสาร์ ในเมืองคยองจู

ทั้งนี้ ทรัมป์จะไม่เข้าร่วมงานสำคัญของการประชุมเอเปค โดยจะกล่าวสุนทรพจน์ในงานซีอีโอซัมมิทของเอเปคเท่านั้น และจะร่วมรับประทานอาหารค่ำกับผู้นำเอเปคในวันพุธ

ตามรายงานของสื่อเกาหลี ระบุว่า การประชุมในปูซาน ทางการได้จัดห้องรับรอง “นาแร มารู” ในสนามบินนานาชาติกิมแฮ ซึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่เมื่อไม่นานมานี้ และถูกกล่าวถึงว่าอาจเป็นสถานที่จัดประชุมระหว่างสีและทรัมป์

นาแร มารู ตั้งอยู่ภายในฐานทัพอากาศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของฝูงบินลำเลียงยุทธวิธีที่ 5 (5th Tactical Airlift Wing) ของเกาหลีใต้

คัง จุนยอง ศาสตราจารย์สาขาจีนศึกษา จาก Hankuk University of Foreign Studies ในกรุงโซล กล่าวว่า ฐานทัพดังกล่าวอาจได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดงานโดยพิจารณาจากเรื่องความมั่นคงและข่าวกรอง

“ฐานทัพอากาศตั้งอยู่ในที่ที่มีความมั่นคงสูงซึ่งเป็นที่ที่คนธรรมดาไม่สามารถเข้าหรืออกได้ง่ายๆ เพื่อให้มั่นใจว่ามีความปลอดภัยในระดับสูง ซึ่งความจริงแล้วที่นี่เคยจัดประชุมสุดยอดระดับสูงในปี 2005 ด้วย” คังกล่าว โดยอ้างอิงถึงการประชุมเอเปคในปี 2005

ด้วยนาแร มารู มีความปลอดภัยสูงและไม่ได้เปิดให้สาธารณชนทั่วไปเข้าได้ สถานที่นี้จึงเคยเป็นห้องรับรองในการประชุมสุดยอดปี 2019 ระหว่างเกาหลีใต้ และสมาชิกอาเซียนอีกด้วย

คังยังได้ย้ำถึงความกังวลเรื่องความเป็นไปได้ที่อาจมีการจัดประท้วงต่อต้านจีนและสหรัฐ เรื่องนี้จึงเป็นอีกเหตุผลที่ฐานทัพอากาศได้รับพิจารณาให้เป็นสถานที่จัดประชุมระหว่างสีและทรัมป์

ที่ผ่านมา ผู้นำจีนหลายคนก็เคยเดินทางไปยังฐานทัพอากาศอเมริกันในระหว่างเข้าร่วมประชุมสำคัญ โดยในปี 2011 อดีตประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ของจีนยังเคยไปเยือนฐานทัพอากาศแอนดรูวส์ ใกล้วอชิงตันในการเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการ ขณะที่อดีตประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน เคยไปเยือนฐานทัพร่วมเอลลิงตันฟิลด์ ใกล้ฮูสตัน ในการเยือนสหรัฐปี 2002

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีกรณีใดที่ผู้นำจีนเข้าร่วมการประชุมสุดยอดระดับโลกในฐานทัพทหาร

แต่สำหรับผู้นำสหรัฐนั่นไม่ใช่ครั้งแรก เพราะทรัมป์เคยประชุมกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียในฐานทัพร่วมเอลเมนดอร์ฟ–ริชาร์ดสัน แอลาสกา เมื่อเดือน ส.ค.