ไม่ขายชิป AI สหรัฐให้จีน อเมริกา ‘เจ็บมากกว่า’ จีน ซีอีโอ Nvidia เตือนถึงทรัมป์

ไม่ขายชิป AI สหรัฐให้จีน อเมริกา ‘เจ็บมากกว่า’ จีน ซีอีโอ Nvidia เตือนถึงทรัมป์

หวง ซีอีโอ Nvidia เตือนปธน.ทรัมป์ การกีดกันไม่ให้ชิป AI สหรัฐเข้าถึงตลาดจีน อาจกลายเป็น ‘ดาบสองคม’ ที่ทำร้ายสหรัฐมากกว่าจีนเอง หวงชี้ นโยบายเช่นนี้กำลังผลักนักพัฒนา AI ครึ่งโลกที่เป็นคนจีน ให้ออกห่างจากอเมริกา

เว็บไซต์นิกเกอิ เอเชียได้รายงานมุมมองของ “เจนเซน หวง” ซีอีโอของบริษัทชิป AI Nvidia ว่า หาก Nvidia ยังคงถูกกันออกจากตลาดจีนต่อไป จะส่งผลเสียต่อสหรัฐ “มากกว่า” จีน ตามความเห็นของซีอีโอรายนี้ที่เผยกับผู้สื่อข่าวและนักวิเคราะห์ หลังจากกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกในการประชุมนักพัฒนา GTC DC ที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

“เราอยากแข่งขันกับจีน แน่นอนอยู่แล้ว เราอยากให้สหรัฐชนะการแข่งขัน AI นี้แน่นอน... แต่เราก็จำเป็นต้องอยู่ในจีน เพื่อเข้าถึงนักพัฒนาของพวกเขาด้วย นโยบายที่ทำให้สหรัฐสูญเสียนักพัฒนา AI ครึ่งหนึ่งของโลกไปนั้น ไม่เป็นผลดีในระยะยาว” เจนเซน หวงให้มุมมอง

ขณะเดียวกัน หวงกล่าวว่า จีนเองก็ต้องตอบคำถามว่า จะเลือกเป็น “ตลาดเปิดเสรี” หรือ “ตลาดเปิดแบบเลือกได้” กันแน่

เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้กล่าวหาว่า Nvidia ละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของจีน หลังรัฐบาลทรัมป์บรรลุข้อตกลงแบ่งรายได้กับ Nvidia เพื่ออนุญาตให้ส่งออกชิป H20 ไปยังจีน โดยหวงเผยว่า ส่วนแบ่งตลาดของ Nvidia ในจีนลดลงจาก 95% เหลือ “ศูนย์” แล้ว

ฮวงกล่าวในช่วงถาม-ตอบกับสื่อและนักวิเคราะห์ว่า รัฐบาลทรัมป์กำลังร่างกฎระเบียบใหม่ ที่จะให้รัฐบาลสหรัฐได้ส่วนแบ่ง 15% ของยอดขายในจีน ขณะที่รัฐบาลจีนเองก็ยังไม่ตัดสินใจว่า จะอนุญาตให้ชิปของ Nvidia กลับเข้าตลาดหรือไม่

“หน้าที่ของเราตอนนี้ คือ รอจนกว่าพวกเขาจะต้องการให้เราเข้าไปอีกครั้ง” หวงกล่าว

เขาเสริมว่า ราคาหุ้นของบริษัทชิปในจีนปรับตัวขึ้นอย่างมากหลัง Nvidia ถอนตัว ซึ่งควรเป็น “สัญญาณเตือนให้วอชิงตันเร่งดำเนินการ” เพื่อให้ Nvidia กลับเข้าตลาดจีนโดยเร็ว

“จีนเป็นประเทศที่มีอำนาจทางเทคโนโลยีมหาศาล เป็นประเทศที่มีศักยภาพด้านการผลิตสูงมาก พวกเขาไม่ได้รอเราอยู่เฉย ๆ” หวงระบุ

ในปีนี้ เจนเซน หวง เดินสายทั่วโลก ทั้งในสหรัฐ ไต้หวัน ปารีส และงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ และจะร่วมงาน APEC ที่เกาหลีใต้ ปลายสัปดาห์นี้ โดยมีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าร่วมด้วย
หวงปฏิเสธที่จะตอบว่า เขาจะได้พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่การประชุม APEC หรือไม่ และการกลับเข้าตลาดจีนของ Nvidia จะเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาการค้าหรือไม่

“มีการประชุมอีกมากที่ต้องจัดขึ้น และเรามีประกาศสำคัญหลายเรื่องที่ทรัมป์เองก็ทราบดี” หวงกล่าว “ถึงแม้จะไม่มีตลาดจีน Nvidia ก็ยังคงมีอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจนถึงปี 2026”

ในการกล่าวสุนทรพจน์วันอังคาร หวงเผยว่า บริษัทคาดว่าจะสร้างรายได้ครึ่งล้านล้านดอลลาร์ จากชิป Blackwell และช่วงเริ่มต้นของ Rubin ซึ่งเป็นคอมพิวติ้งรุ่นถัดไปภายในปี 2026 

“และรายได้นี้ไม่รวมตลาดจีนและเอเชียเลย นี่คือเฉพาะฝั่งตะวันตกเท่านั้น” หวงกล่าวเสริม
นอกจากนี้ หวงยังเตือนถึง “สงครามแย่งชิงบุคลากร” ในยุค AI

“สหรัฐอาจตามหลังจีนได้ไหม? คำตอบคือ ‘ได้แน่นอน’ เพราะตอนนี้นักวิจัย AI ทั่วโลกกว่า 50% เป็นคนจีน” หวงกล่าว

“สิ่งสำคัญมากคือ สหรัฐต้องยังคงเป็นประเทศที่คนอย่างผม ผู้อพยพที่อยากมาเรียน ทำงาน และสร้างชีวิต อยากมาอยู่ต่อ” หวงกล่าวเสริม

ที่ผ่านมา รัฐบาลทรัมป์ได้เพิ่มความเข้มงวดแรงงานต่างชาติ ด้วยการจำกัดวีซ่าทำงาน H-1B โดยเพิ่มราคาจากเดิมหลักแสนบาท เป็น “ราว 3 ล้านบาท” แทน

ด้านหวงเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่า Nvidia จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายราว 3 ล้านบาทเอง สำหรับการขอวีซ่า H-1B ของพนักงานทุกคน ขณะเดียวกัน บริษัทสตาร์ทอัพเทคโนโลยีระดับเล็ก อาจพบว่าต้นทุนบุคลากรต่างชาติที่พุ่งแรงเช่นนี้ อาจเป็นความท้าทายใหญ่ในการแบกรับ

อ้างอิง: nikkei