'ทรัมป์' ถึงญี่ปุ่นแล้ว เตรียมเข้าเฝ้าจักรพรรดิ ก่อนพบซานาเอะ ทาคาอิจิ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางถึงกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงเย็นวันจันทร์ (27 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากร่วมพิธีลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชา เมื่อวันอาทิตย์ (26 ต.ค.) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทรัมป์จะเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่ได้เข้าเฝ้า สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ หลังพระองค์ขึ้นครองราชย์ในปี 2562 ซึ่งเป็นการสืบราชสันตติวงศ์ที่บางคนบอกว่าเป็น “สถาบันกษัตริย์ที่มีการสืบราชสันตติวงศ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก”

อย่างไรก็ตาม บทบาทของ สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น เป็นเพียงสัญลัษณ์เท่านั้น และพิธีการทูตที่สำคัญจะมีขึ้นกับ ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น ในวันอังคาร (28 ธ.ค.)

ทั้งนี้ เมื่อทรัมป์เดินทางถึงญี่ปุ่น มีเจ้าหน้าที่รอต้อนรับจำนวนหนึ่งและพาปธน. ขึ้นเฮลิคปเตอร์เพื่อเดินทางต่อ

ผู้นำสหรัฐและญี่ปุ่นเตรียมพบกันที่ พระราชวังอากาซากะ หรือทำเนียบรับรองแขกของรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสถานที่ที่ ทรัมป์ เคยพบกับอดีตนายกฯ ชินโซ อาเบะ เมื่อ 6 ปีก่อน และจะมีการต้อนรับจากกองทหารเกียรติยศ

นอกจากคำมั่นสัญญาลงทุน คาดว่าทาคาอิจิจะให้คำมั่นต่อทรัมป์ว่าญี่ปุ่นจะดำเนินการด้านกลาโหมมากขึ้น หลังจากกล่าวกับสมาชิกรัฐสภาเมื่อวันศุกร์ (24 ต.ค.) ว่า เธอมีแผนเสริมแกร่งกลาโหมครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีกองทัพสหรัฐประจำการในต่างประเทศมากที่สุด และทรัมป์เคยบ่นก่อนหน้านี้ว่า ญี่ปุ่นไม่ได้ใช้งบประมาณเพียงพอในการปกป้องหมู่เกาะของตนจากจีนที่เสริมแกร่งกองทัพอย่างแข็งกร้าวมากขึ้น

ในขณะที่ทาคาอิจิบอกว่าเธอจะเร่งแผนใช้จ่ายกลาโหมสู่ระดับ 2% ของผลิตภัณฑ์มวรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เธออาจประสบปัญหาในการให้คำมั่นสัญญาเพิ่มงบประมาณให้สูงขึ้นไปอีกตามที่ทรัมป์ต้องการ เพราะพรรคร่วมรัฐบาลของเธอไม่มีเสียงข้างมากในรัฐสภา

ทั้งนี้ หลังจากเยือนญี่ปุ่นแล้ว ทรัมป์มีกำหนดการเยือนเมืองคย็องจู ประเทศเกาหลีใต้ต่อในวันพุธ (29 ต.ค.) เมืองที่เขาจะได้หารือครั้งแรกกับประธานาธิบดีอี แจมยอง ของเกาหลีใต้ ในงานประชุมอาเซียน และพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในวันพฤหัสบดี (30 ต.ค.)

รายงานนี้มีการแก้ไขข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางของปธน.ทรัมป์