เปิดรายละเอียด MOU แร่สำคัญ ‘ไทย-สหรัฐ’ เราจะยกแร่ให้อเมริกา?

เปิดรายละเอียด MOU ทำความเข้าใจดีลแร่สำคัญระหว่าง ‘ไทย-สหรัฐ’ เราจะยกแร่ให้อเมริกา? ไทยจะเป็นส่วนหนึ่งของซัพพลายแร่ธาตุที่สำคัญของโลก?
ทำเนียบขาวเปิดเผยเอกสารบันทึกความเข้าใจเรื่องแร่ธาตุที่สำคัญกับประเทศไทย เมื่อวันอาทิตย์ (26 ต.ค.68) หลังไทย-กัมพูชาลงนามข้อตกลงสันติภาพ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยเกี่ยวกับความร่วมมือเพื่อกระจายห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญระดับโลก และส่งเสริมการลงทุน
รัฐบาลสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลราชอาณาจักรไทย (ต่อไปนี้จะเรียกทั้งสองประเทศว่า “ผู้เข้าร่วม” ) ได้บันทึกความเข้าใจร่วมกันว่า
- จะแสวงหาความร่วมมือในการเสริมสร้างการกำกับดูแลภาคส่วนทรัพยากรแร่ธาตุที่สำคัญ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างบริษัทของสหรัฐ และไทย และส่งเสริมการค้า และการลงทุนระหว่างผู้เข้าร่วม เพื่อขยายการบูรณาการของไทยในห่วงโซ่อุปทานระดับโลกที่ปลอดภัย และเชื่อถือได้
- คำนึงถึงประวัติศาสตร์การค้า และการลงทุนอันยาวนาน และเปี่ยมด้วยประสิทธิผลระหว่างผู้เข้าร่วม ตลอดจนคำนึงถึงความสำคัญของการส่งเสริมการค้า และการลงทุนเพื่อการเติบโต และการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
- ตระหนักถึงความสำคัญของตลาดที่มั่นคง หลากหลาย มีสภาพคล่อง และเป็นธรรมสำหรับห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญ โดยเคารพสนับสนุนการสำรวจ การสกัด การแปรรูป การประยุกต์ใช้งานขั้นสุดท้ายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด การกู้คืน และการรีไซเคิล
- นอกจากนี้ ยังต้องตระหนักถึงความมุ่งมั่นที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างผู้เข้าร่วมให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และทรัพยากรร่วมกัน
- เน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมโอกาสในการสกัด การแปรรูป และการรีไซเคิลที่เป็นไปตามมาตรฐานสากลสูงสุด
- รับทราบถึงความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค กฎระเบียบ นโยบาย การดำเนินงาน และการบริหารจัดการภาคส่วนนี้ รวมถึงประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ในด้านทรัพยากรแร่ที่ทั้งสองประเทศมี
- มีความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างการค้า และการลงทุนในห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญระหว่างผู้เข้าร่วม เพื่อสร้างความมั่นใจว่าอุปทานแร่ธาตุสำคัญระดับโลก มีความมั่นคง และเชื่อถือได้ เพื่อให้สามารถถ่ายทอดเทคโนโลยี และเพื่อส่งเสริมการวิจัย พัฒนา และการนำเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมมาใช้
- เชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่างผู้เข้าร่วมจะก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันในการสร้างความมั่นคงให้กับเงื่อนไขการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพิ่มความยืดหยุ่น และความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญในประเทศของตน และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจของทั้งสองประเทศในการสำรวจ พัฒนา แปรรูป และนำแร่ธาตุสำคัญไปใช้ในขั้นสุดท้าย
วัตถุประสงค์ของ MOU
บันทึกความเข้าใจฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างผู้เข้าร่วมในการพัฒนา และขยายห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญ เพื่อส่งเสริมการค้า และการลงทุนในการสำรวจ การสกัด การแปรรูป และการกลั่นทรัพยากรแร่ธาตุสำคัญระหว่างผู้เข้าร่วม รวมถึงการรีไซเคิล และการกู้คืน อันจะนำไปสู่การส่งเสริมการลงทุนที่สนับสนุนการเพิ่มมูลค่า และอุตสาหกรรมแปรรูปภายในประเทศ แทนที่จะส่งออกวัตถุดิบเพียงอย่างเดียว และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ตลาดแร่ธาตุสำคัญ และแร่ธาตุหายากที่เปิดกว้าง มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และโปร่งใส เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองของห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญ และแร่ธาตุหายากในสหรัฐ และประเทศไทย
ขอบเขตของความร่วมมือ
1. ผู้เข้าร่วมทั้งสองมีความมุ่งมั่นที่จะแบ่งปันข้อมูล ความรู้ และความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเกี่ยวกับแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดระดับสากล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคส่วนแร่ธาตุสำคัญของประเทศไทย ช่วยเหลือประเทศไทยในการวิเคราะห์ขอบเขตของฐานทรัพยากรแร่ธาตุสำคัญของประเทศไทย และประสานงานตามความเหมาะสมเกี่ยวกับโครงการสำคัญที่ส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญให้มั่นคง ยืดหยุ่น และเป็นไปอย่างรับผิดชอบ
ขณะที่ผู้เข้าร่วมโครงการแต่ละรายมีสิทธิพิจารณาว่าโครงการใดเหมาะสมสำหรับการลงทุน ภายใต้ข้อตกลงที่มีอยู่ระหว่างผู้เข้าร่วมทั้งสองจะได้รับโอกาสแรกในการลงทุนตามกฎหมายภายในประเทศ ในสินทรัพย์แร่ธาตุสำคัญที่อาจขายในประเทศไทย หรือโดยบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่หรือจดทะเบียนในประเทศไทย และในโครงการลงทุนจะมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการถ่ายทอดเทคโนโลยี การเสริมสร้างศักยภาพ และการฝึกอบรมบุคลากรภายในประเทศ ความร่วมมือนี้ควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูป และห่วงโซ่คุณค่าภายในประเทศ
2.กลไกความร่วมมืออาจรวมถึง : การประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐของผู้เข้าร่วม การประชุมเชิงปฏิบัติการ สัมมนา งานธรณีวิทยาร่วม การแลกเปลี่ยนข้อมูล และกลไกอื่นๆ ในหัวข้อที่น่าสนใจร่วมกัน การประชุม และการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับภาคเอกชน มหาวิทยาลัย และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ และกิจกรรมเสริมสร้างขีดความสามารถ
3. ขอบเขตความร่วมมืออาจครอบคลุมหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับแนวปฏิบัติด้านกฎระเบียบที่ดี เช่น การดำเนินมาตรการเพื่อปรับปรุงกระบวนการขออนุญาต ปัญหาการลงทุน และความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกลางกับจังหวัด รัฐ หรือหน่วยงานรัฐบาลระดับรองอื่นๆ นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมจะทำงานด้วยความสุจริตใจเพื่อพัฒนาหรือเสริมสร้างอำนาจบริหารที่มีอยู่เดิม เพื่อทบทวน และยับยั้งการขายแร่ธาตุสำคัญ และสินทรัพย์ธาตุหายากบางชนิดโดยคำนึงถึงความมั่นคงของชาติ
4. ผู้เข้าร่วมทั้งสองมีความมุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลแก่กันและกัน เกี่ยวกับการประมูล และโครงการที่มีศักยภาพโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม จะต้องไม่ช้ากว่าที่ข้อมูลดังกล่าวจะถูกส่งไปยังนักลงทุนที่มีศักยภาพรายอื่น เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวไปยังบริษัท และพันธมิตรของตนได้ทันเวลาเพียงพอสำหรับผู้รับที่จะเข้าร่วมในการประมูล และโครงการดังกล่าว
5. ผู้เข้าร่วมจะประสานงานกันเพื่อปกป้องตลาดแร่ธาตุสำคัญ และแร่ธาตุหายากในประเทศของตนบนพื้นฐานของนโยบายที่เน้นตลาด และแนวทางปฏิบัติการค้าที่เป็นธรรม โดยการจัดตั้งตลาดที่มีมาตรฐานสูง ซึ่งผู้ที่ตรงตามมาตรฐานสูงเหล่านั้นสามารถซื้อขายได้อย่างมีสิทธิพิเศษ และภายในกรอบราคา รวมถึงราคาขั้นต่ำหรือมาตรการที่คล้ายคลึงกัน
การดำเนินงาน และการแบ่งปันข้อมูล
ผู้เข้าร่วมมีความมุ่งมั่นที่จะพบปะกันทั้งแบบตัวต่อตัวหรือแบบออนไลน์ในระดับปฏิบัติงานเป็นประจำ เพื่อหารือเกี่ยวกับโอกาสทางการค้า และการลงทุนด้านห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุที่สำคัญ หรืออาจพบปะกันเป็นการเฉพาะหน้าตามที่ผู้เข้าร่วมตกลงร่วมกัน หากมีเรื่องเร่งด่วนเกิดขึ้น ผู้เข้าร่วมแต่ละรายมีความมุ่งมั่นที่จะพิจารณาด้วยตนเองว่าโครงการที่หารือกันในการประชุมรายไตรมาสนั้นเหมาะสมสำหรับการดำเนินการเพิ่มเติมหรือไม่
การบังคับใช้ และการสิ้นสุด MOU
1.บันทึกความเข้าใจฉบับนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ทั้งสองฝ่ายลงนาม
2.ความร่วมมือทั้งหมดภายใต้บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ขึ้นอยู่กับเงินทุนที่มีอยู่ แต่บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ไม่ถือเป็นภาระผูกพันทางการเงิน ทั้งสองฝ่ายมีเจตนาที่จะดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่กำหนดไว้ในบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ให้สอดคล้องกับกฎหมาย และข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
3. บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ไม่มีเจตนาที่จะมีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างประเทศ หรือส่งผลกระทบต่อข้อตกลงใดๆ ที่มีอยู่ระหว่างผู้เข้าร่วม
4. ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายสามารถยุติความร่วมมือภายใต้บันทึกความเข้าใจฉบับนี้เมื่อใดก็ได้ และควรแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรถึงผู้เข้าร่วมอีกฝ่ายหนึ่งถึงการยุติความร่วมมือดังกล่าวผ่านทางบันทึกความเข้าใจทางการทูต
5. การยุติความร่วมมือไม่ได้มุ่งหมายที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมที่กำลังดำเนินอยู่ภายใต้บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ก่อนการยุติความร่วมมือ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







