จีนหายไปไหน? ทำไมไม่มาร่วมลงนามสันติภาพ‘ไทย-กัมพูชา’

ผ่านไปอย่างชื่นมื่นกับการลงนามสันติภาพระหว่างไทยและกัมพูชา ที่มีผู้นำสหรัฐคอยกำกับดูแลและมาเลเซียเป็นสักขีพยาน แต่เกิดคำถามว่า แล้วจีนพี่ใหญ่ในภูมิภาคเอเชียหายไปไหน? ทำไมไม่เห็นหน้า
หากยังจำกันได้ การตกลงหยุดยิงระหว่างไทยโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี กับนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตของกัมพูชาที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค. เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อยู่ในช่วงเจรจาการค้ากับคู่ค้าทั่วโลก ทรัมป์ยื่นคำขาดให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิง ไม่เช่นนั้นแล้วจะไม่เจรจาทำข้อตกลงการค้าด้วย สองประเทศต้องรีบหารือกันที่มาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน
ระหว่างการเจรจานอกจากคู่กรณีสองประเทศแล้ว พยานสำคัญที่่ร่วมด้วยคือเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ การปรากฏตัวของสองคนนี้เข้าใจได้ เนื่องจากสหรัฐเป็นฝ่ายเปิดประเด็นหยุดยิง และเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ ในฐานะจีนเป็นมหาอำนาจแห่งเอเชีย
แต่พิธีลงนามสันติภาพ (ตามคำเรียกขานของทรัมป์) ในวันนี้แตกต่างออกไป เมื่อไม่มีเงาเจ้าหน้าที่จีนเข้าร่วมด้วย!!!
มีทรัมป์ต้องไม่มีจีน
ตามรายงานของเว็บไซต์ข่าวโพลิติโค (Politico) การเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียนซัมมิตของทรัมป์ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ว่าอาเซียนจะให้เขาดูแลพิธีลงนามหยุดยิงอย่างเป็นทางการหรือไม่ และอีกหนึ่งเงื่อนไขคือต้องไม่มีเจ้าหน้าที่จีนเข้าร่วมพิธี ทรัมป์ถึงจะมาประชุมผู้นำอาเซียน
ทั้งนี้ ทรัมป์มีกำหนดพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ในวันพฤหัสบดี (30 ต.ค.) ที่เกาหลีใต้นอกรอบการประชุมผู้นำความร่วมมือเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) ประเด็นที่เขาเตรียมมาหารือได้แก่ เฟนทานิล แรร์เอิร์ธ ถั่วเหลือง และไต้หวัน







