รมว.กระทรวงรวมชาติเกาหลีใต้ ชี้ มีโอกาสสูง ‘ทรัมป์’ เจอ ‘คิม จอง อึน’ สัปดาห์หน้า

รมว.กระทรวงรวมชาติเกาหลีใต้ เผย มีโอกาสสูงที่ ‘ปธน.ทรัมป์’ จะได้พบกับ ‘คิม จอง อึน’ ผู้นำเกาหลีเหนือในสัปดาห์หน้า ย้ำทั้งสองคนไม่ควรปล่อยโอกาสหลุดลอยไป
รัฐมนตรีกระทรวงรวมชาติเกาหลีใต้ เปิดเผยในวันศุกร์ (24 ต.ค.68) ว่า เขาเชื่อว่ามีโอกาสสูงที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะได้พบกับคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ในระหว่างเยือนเกาหลีใต้เพื่อเข้าร่วมงานประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) สัปดาห์หน้า
สื่อสหรัฐรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากรัฐบาลทรัมป์ได้หารือกันเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับการจัดประชุมระหว่างทรัมป์ และคิม ผู้ที่ทรัมป์เคยหารือด้วยในปี 2019
ชุง ดงยอง รัฐมนตรีกระทรวงรวมชาติ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า
“เกาหลีเหนือดูเหมือนจะให้ความสนใจกับสหรัฐ และมีสัญญาณต่างๆ ... ที่ชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้อย่างมากของการพบปะกัน”
ขณะที่ทรัมป์เคยกล่าวไว้ว่า เขาหวังจะได้พบคิมอีกครั้ง เป็นไปได้ภายในปีนี้
ด้านคิมกล่าวเมื่อเดือนก่อนว่า เขามี “ความทรงจำที่ดี” เกี่ยวกับทรัมป์ และเปิดใจที่จะเจรจา หากสหรัฐเลิกเรียกร้องอย่างเพ้อฝันที่จะให้เปียงยางสละอาวุธนิวเคลียร์
ส่วนรัฐบาลโซลเรียกร้องว่าผู้นำทั้งสองคนไม่ควรปล่อยโอกาสนี้หลุดลอยไป
“ผมไม่อยากพลาดโอกาสแม้แต่ 1%” ชุง กล่าว และเสริมว่า ผู้นำทั้งสองต้องตัดสินใจ
แม้ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการประชุมของผู้นำสหรัฐ และเกาหลีเหนือ แต่เกาหลีใต้ และกองบัญชาการสหประชาชาติได้ระงับการเยี่ยมชมพื้นที่ความมั่นคงร่วม (Joint Security Area:JSA) ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม ถึงต้นเดือนพฤศจิกายน
คิมและทรัมป์พบกันครั้งล่าสุดในปี 2019 ที่หมู่บ้านปันมุนจอม ในเขต JSA ที่ตั้งอยู่ในเขตปลอดทหารที่กั้นระหว่างสองเกาหลี ซึ่งเป็นสถานที่เดียวที่ทหารจากทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันเป็นประจำ
ชุงเผยด้วยว่า มีรายงานว่าชาวเกาหลีเหนือกำลัง “ปรับปรุง” พื้นที่ใกล้กับ JSA เป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยมีการทำความสะอาด ถอนวัชพืช ตัดแต่งแปลงดอกไม้ และถ่ายรูปรอบๆ ปันมุนจอม
อนึ่ง คิมเคยพบกับทรัมป์ถึง 3 ครั้งในระหว่างที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสมัยแรก
การพบกันครั้งสุดท้ายอย่างกะทันหันของผู้นำทั้งสองในปันมุนจอมถูกจัดขึ้นอย่างเร่งรีบ หลังจากที่ทรัมป์ส่งคำเชิญไปยังคิมผ่านทางทวิตเตอร์หนึ่งวันก่อนหน้า
ในการพบปะกันครั้งก่อน สองผู้นำได้จับมือกันเหนือบนพื้นคอนกรีตที่แบ่งเขตแดนเหนือ และใต้ ก่อนที่ทรัมป์จะเดินเข้าไปในดินแดนของเปียงยางเพียงไม่กี่ก้าว และกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่เหยียบแผ่นดินเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ตามในที่สุดการเจรจาก็ล้มเหลว เนื่องจากไม่แน่ใจว่าเกาหลีเหนือยินดีจะยอมสละคลังอาวุธนิวเคลียร์มากเพียงใด และเปียงยางจะได้รับอะไรเป็นการตอบแทน
เมื่อเดือนสิงหาคม ทรัมป์ได้ยกย่องความสัมพันธ์ของเขากับคิม และกล่าวว่าเขารู้จักคิม “ดีกว่าใครเกือบทั้งหมดยกเว้นน้องสาวของเขา”
ทั้งนี้ การเยือนเกาหลีใต้ของทรัมป์มีกำหนดการพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนอีกด้วย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







