แบงก์ยักษ์ ‘อิหร่าน’ ล้ม หนี้ท่วม เงินกองทุนติดลบ 600% ระบบการเงินล้มเหลว

รัฐบาลอิหร่านสั่งยุบ แบงก์ยักษ์ ‘อายานเดห์’ หนี้เสียท่วม เงินกองทุนติดลบ 600% สะท้อนวิกฤติระบบการเงินล้มเหลว ถูกตัดขาดจากโลก หลัง ‘สหรัฐ’ คว่ำบาตร
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ธนาคารอายานเดห์ (Ayandeh Bank) หนึ่งในธนาคารพาณิชย์เอกชนที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน ถูกรัฐบาลสั่งยุบ และโอนกิจการให้กับแบงก์ เมลลี อีราน ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอิหร่าน หลังจากธนาคารกลางอิหร่าน (CBI) ได้ประกาศ เพิกถอนใบอนุญาตการดำเนินงานเมื่อวานนี้(23 ต.ค.68)
การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่นี้เผยให้เห็นถึงวิกฤติความล้มเหลวร้ายแรงในระบบธนาคารของอิหร่านที่ประสบปัญหา “หนี้เสีย” จำนวนมาก และต้องดำเนินงานอย่างโดดเดี่ยวจากระบบการเงินโลกเนื่องจากการคว่ำบาตรของสหรัฐ
ขาดทุนยับ-เงินกองทุนติดลบ 600%
โมฮัมหมัด-เรซา ฟาร์ซิน ผู้ว่าการ CBI แถลงการณ์ถึงการปิด Ayandeh Bank อย่างเป็นทางการ โดยให้เหตุผลว่าธนาคาร ”ไม่มีประสิทธิภาพ ผลการดำเนินย่ำแย่ และมีเงินกองทุนติดลบ" ซึ่งแม้จะมีความพยายามแก้ไข แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการปฏิรูปตามที่ธนาคารกลางต้องการได้
แม้ผู้ว่าการ CBI จะไม่ได้ระบุตัวเลขหนี้สิน และผลขาดทุนที่แน่ชัด แต่ตามข้อมูลของผู้อำนวยการฝ่ายกำกับดูแลธนาคารของ CBI ระบุว่า Ayandeh Bank มีเงินทุนคงเหลือเพียง 15 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่มีหนี้สินมากกว่า 5.5 พันล้านดอลลาร์ และอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Capital Adequacy Ratio หรือ CAR) ติดลบถึง 600% สะท้อนว่าธนาคารแห่งนี้อยู่ในภาวะล้มละลายอย่างรุนแรง
นอกจากนี้ ทรัพยากรทางการเงินของธนาคารกว่า 90% ถูกนำไปใช้สนับสนุนโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ที่ธนาคารบริหารจัดการอยู่ เช่น โครงการ Iran Mall ขนาดยักษ์ ซึ่งบางส่วนยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์
สะท้อนวิกฤติระบบการเงินอิหร่าน
การยุบครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่หัวหน้าฝ่ายตุลาการของอิหร่านได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงต่อ Ayandeh และเจ้าหน้าที่ CBI ที่ล้มเหลวในการปฏิรูป ทำให้สถานะทางการเงินของธนาคารย่ำแย่ลงอย่างมากหลังจากที่ CBI ได้เข้ามาใช้มาตรการพิเศษ
วิกฤติ Ayandeh Bank ตอกย้ำถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของภาคธนาคารอิหร่านที่ถูกตัดขาดจากโลก โดยธนาคารอิหร่านถูกแยกออกจากระบบการเงินโลกมาหลายปีเนื่องจากการ คว่ำบาตรของสหรัฐ และการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อระหว่างประเทศของ คณะทำงานปฏิบัติการทางการเงิน (FATF) ซึ่งทำให้อิหร่านถูกขึ้นบัญชีดำในปี 2563
Ayandeh Bank ก่อตั้งขึ้นในปี 2002 มีสาขา 276 แห่ง และให้บริการลูกค้าเกือบ 3 ล้านราย การสั่งยุบธนาคารครั้งใหญ่นี้จึงสะท้อนถึงปัญหาร้ายแรงในระบบการเงินของอิหร่าน
หลังจากนี้ ลูกค้า พนักงาน และสาขาของ Ayandeh Bank จะถูกโอนไปอยู่ภายใต้การดูแลของธนาคาร Melli ซึ่งเป็นธนาคารของรัฐ โดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์นี้ เป็นต้นไป เพื่อรับรองความต่อเนื่องในการให้บริการ และปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และพนักงานเดิมประมาณ 3,900 คน สามารถเลือกที่จะทำงานเป็นพนักงานของธนาคาร Melli ได้หากต้องการ
อ้างอิง bloomberg
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







