ส่งออก ‘ญี่ปุ่น’ เดือน ก.ย. พุ่ง 4.2% ฟื้นตัวรอบ 5 เดือน จากชิป-ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
ส่งออก ‘ญี่ปุ่น’ เดือน ก.ย. พุ่ง 4.2% ฟื้นตัวรอบ 5 เดือน นำโดยชิปและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แข็งแกร่ง
แต่ส่งออกไปสหรัฐวูบ 13.3%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การส่งออก"ญี่ปุ่น"เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนในเดือนก.ย.ที่ 4.2% โดยได้รับแรงหนุนหลักจากการขนส่งชิปและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม การส่งออกไปยังสหรัฐอยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางมาตรการภาษีนำเข้าของประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์”
กระทรวงการคลังญี่ปุ่น รายงานวันนี้ (22ต.ค.)ว่า การส่งออกเซมิคอนดักเตอร์และส่วนประกอบไฟฟ้าอื่นๆ เพิ่มขึ้นถึง 12.6% จากความต้องการที่แข็งแกร่งในเอเชีย นอกจากนี้ การขนส่งเชื้อเพลิงแร่ก็มีส่วนช่วยในการเพิ่มขึ้นนี้เช่นกัน
แม้ว่าการส่งออกรวมจะฟื้นตัว แต่ตัวเลขการส่งออกไปยังสหรัฐกลับลดลง 13.3% นับเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มูลค่าการขนส่งรถยนต์ไปยังสหรัฐลดลงถึง 24.2% แม้ว่าสหรัฐจะลดภาษีนำเข้ารถยนต์ญี่ปุ่นลงเล็กน้อยในช่วงกลางเดือนก.ย.
ทาเคชิ มินามิ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำสถาบันวิจัยโนรินชูคิน ให้ความเห็นว่า "การส่งออกไปยังสหรัฐยังคงอ่อนแอ โดยเฉพาะในกลุ่มยานยนต์ อันเนื่องมาจากผลกระทบของภาษีศุลกากร" แต่ในทางกลับกัน การส่งออกไปยังสหภาพยุโรปและจีนกลับเพิ่มขึ้น 5% และ 5.8% ตามลำดับ
ขณะนี้ ญี่ปุ่นยังคงขาดดุลการค้าที่ 234,600 ล้านเยน หรือประมาณ 1,500 ล้านดอลลาร์ ในเดือนก.ย.เนื่องจากการนำเข้าเพิ่มขึ้น 3.3% ซึ่งเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้
นักวิเคราะห์ประเมินว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาสในช่วง 3 เดือนจนถึงเดือนก.ย. เนื่องจากผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อวัฏจักรการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพยายามผลักดัน
ในช่วงนี้ ความสนใจยังคงอยู่ที่การลงทุนมูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นการลงทุนในสหรัฐซึ่งเป็นส่วนสำคัญของข้อตกลงการค้าที่บรรลุในเดือนก.ค. หากญี่ปุ่นไม่สามารถระดมทุนโครงการต่างๆ ผ่านกลไกนี้ได้ ประธานาธิบดีทรัมป์อาจพิจารณาขึ้นภาษีสินค้าญี่ปุ่นอีกครั้ง
ทั้งนี้ คาดว่าประธานาธิบดีทรัมป์มีกำหนดเยือนโตเกียวในสัปดาห์หน้าเพื่อพบกับนายกรัฐมนตรี ซานาเอะ ทาคาอิชิ คนใหม่ของญี่ปุ่น เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นการค้าระหว่าง 2 ประเทศ