ทรัมป์พูดเอง! ไม่อยากประชุมสูญเปล่า กับปูตินเรื่องยูเครน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงาน ทรัมป์กล่าวเมื่อวันอังคาร (21 ต.ค.68) ยังไม่ตัดสินใจยกเลิกแผนการพบปะกับปูตินแต่ตอกย้ำความปรารถนาของตนเองอีกครั้งที่รัฐบาลเครมลินปฏิเสธว่า อยากให้ตรึงแนวรบปัจจุบันไว้ในฐานะส่วนหนึ่งของข้อตกลงหยุดยิง

“ผมไม่อยากมีการประชุมที่สูญเปล่า ไม่อยากเสียเวลา ผมรอดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว และว่า จะแจ้งแผนการของตนเองให้สื่อทราบ “ในอีกสองวันข้างหน้า”

ทรัมป์ กล่าวว่า เขายังคงมีความหวังในการหยุดยิง แต่กลับประเมินความขัดแย้งนี้ในเชิงลบอย่างมาก ซึ่งเป็นสัญญาณว่าความหวังของทรัมป์ในการยุติความขัดแย้งโดยเร็วอาจริบหรี่ลง ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว กล่าวว่า ผู้นำทั้งสองไม่มีแผนที่จะพบกันในอนาคตอันใกล้นี้

เจ้าหน้าที่ผู้ไม่เปิดเผยตัวตนคนเดิม กล่าวว่า การโทรศัพท์คุยกันระหว่างนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เมื่อวันจันทร์ (20 ต.ค.68) ได้ผลมาก แต่สองคนนี้ไม่จำเป็นต้องพบกัน

ข้อมูลนี้ซึ่งไม่มีรายละเอียดตรงข้ามกับความเห็นของทรัมป์หลังคุยโทรศัพท์กับปูตินเมื่อสัปดาห์ก่อน ตอนนั้นทรัมป์ กล่าวว่า เขาจะพบกับปูติน “ภายในสองสัปดาห์หรือประมาณนั้น” และรูบิโอกับลาฟรอฟ จะพบกัน “โดยเร็ว”

การเปลี่ยนท่าทีสอดรับกับความเห็นของรัสเซีย ที่ต้องการลดความคาดหวังเรื่องการพบกันของสองผู้นำเช่นกัน นายดิมิทรี เพสคอฟ โฆษกประจำตัวปูตินระบุ “งานที่รออยู่ข้างหน้าท้าทายยิ่ง จำเป็นต้องเตรียมการอย่างจริงจัง”

ในช่วงหลังทรัมป์เร่งเรียกร้องให้ยุติสงคราม โดยขอให้ทั้งสองฝ่ายยุติ “ณ แนวรบ” ในวันจันทร์ทรัมป์สงสัยในความสามารถของยูเครนว่าจะเอาชนะกองทัพรัสเซียได้จริงหรือไม่ ทั้งยังลังเลต่อการส่งความช่วยเหลือทางทหารให้ยูเครน และขู่คว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่

เมื่อวันศุกร์ (17 ต.ค.68) ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เยือนวอชิงตันเพื่อพยายามโน้มน้าวทรัมป์ส่งขีปนาวุธโทมาฮอว์ก และการสนับสนุนอื่นๆ ให้ยูเครน แต่ปูตินชิงโทรศัพท์หาทรัมป์ก่อนในวันพฤหัสบดี (16 ต.ค.68) และเห็นชอบพบกับทรัมป์ที่กรุงบูดาเปสต์ของฮังการี

ในเวลานั้นทรัมป์ยอมรับว่า การพบกันที่บูดาเปสต์อาจเป็นความพยายามซื้อเวลาของปูติน โดยเฉพาะหลังจากทั้งสองคนพบกันในเดือนส.ค.แล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติความขัดแย้งได้ แต่ทรัมป์ก็ไม่ได้สนใจกับความกังวลที่ว่า เขาอาจกำลังถูกปูตินปั่นหัว  ยืนยันว่าทำเนียบเครมลินเองก็อยากยุติความขัดแย้งที่กำลังเข้าสู่ปีที่ 4

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์