เปิดความท้าทาย ‘ซานาเอะ ทาคาอิจิ’ นายกฯ หญิงคนแรกของญี่ปุ่น

เปิดความท้าทาย ‘ซานาเอะ ทาคาอิจิ’ นายกฯ หญิงคนแรกของญี่ปุ่น

ซานาเอะ ทาคาอิจิ หัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลญี่ปุ่น ได้รับเลือกจากสภาให้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 104 ของประเทศ และเป็นนายกฯ หญิงคนแรกท่ามกลางความท้าทายรออยู่ข้างหน้า

KEY

POINTS

  • นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่นเผชิญความท้าทายทางการเมืองในการบริหารรัฐบาลผสมที่มีเสียงข้างมากเพียงเล็กน้อย และต้องรับมือข้อเรียกร้องการปฏิรูปจากพรรคร่วมรัฐบาลใหม่
  • ต้องแก้ไขปัญหาค่าครองชีพสูง และภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เนื่องจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของเธออาจทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง และซ้ำเติมปัญหา
  • มีภารกิจด้านการทูตที่ท้าทายรออยู่ทันที หลังเข้ารับตำแหน่ง ทั้งการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน และเอเปค รวมถึงการต้อนรับผู้นำจากต่างประเทศ

ซานาเอะ ทาคาอิจิ หัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลญี่ปุ่น ได้รับเลือกจากสภาให้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 104 ของประเทศ และเป็นนายกฯ หญิงคนแรกท่ามกลางความท้าทายรออยู่ข้างหน้า 

เว็บไซต์นิกเคอิเอเชียรายงาน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นสมัยพิเศษ เมื่อวันอังคาร (21 ต.ค.68) มีมติเสียงข้างมาก 237 เสียง จากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งหมด 465 เสียง เลือกทาคาอิจิเป็นนายกรัฐมนตรี โดย นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะและคณะรัฐมนตรีลาออกพร้อมกันในช่วงเช้า เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกนายกฯ คนใหม่

ทาคาอิจิ ตั้งคณะรัฐมนตรีในวันเดียวกัน จากนั้นเข้าเฝ้า และได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ จากสมเด็จพระจักรพรรดิ ณ พระราชวังอิมพีเรียล สืบทอดตำแหน่งนายกฯ จากอิชิบะอย่างเป็นทางการ

การเลือกนายกฯ ครั้งประวัติศาสตร์ เกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) เห็นชอบกับพรรคนวัตกรรมญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพรรคสายกลางขวาตั้งรัฐบาลผสมเมื่อวันจันทร์ (20 ต.ค.68) ด้วยจุดมุ่งหมาย “ฟื้นฟูญี่ปุ่น” ด้วยการสร้าง “ชาติที่พึ่งพาตนเอง” ขึ้นในภูมิภาค

ทาคาอิจิ นักการเมืองอนุรักษนิยม วัย 64 ปี ผู้ชื่นชมนายกรัฐมนตรีมาร์กาเร็ต แธตเชอร์ ของสหราชอาณาจักร เป็นผู้นำหญิงคนแรกของญี่ปุ่น นับตั้งแต่ญี่ปุ่นมีรัฐบาลโดยคณะรัฐมนตรี 140 ปี 

เธอใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ผู้ล่วงลับ นโยบายของเธอเรียกร้องการใช้จ่ายทางการคลังเชิงรุก สร้างความหวังให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์ และอื่นๆ

ในระยะสั้น พรรคแอลดีพี และพรรคนวัตกรรมญี่ปุ่นกล่าวว่า พวกเขาจะใช้มาตรการยกระดับการดำรงชีพของพลเมืองที่กำลังเผชิญปัญหาสินค้าราคาแพง และปฏิรูปการเมืองให้จริงจัง เช่น ลดจำนวน สส. อันเป็นวาระทางการเมืองอันอ่อนไหวที่พรรคนวัตกรรมญี่ปุ่นกำลังผลักดัน

อย่างไรก็ตาม สองพรรครวมกันได้เสียงข้างมากมาเล็กน้อย จำเป็นต้องได้เสียงพรรคอื่นมาช่วยเพื่อผ่านกฎหมาย

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า มุมมองทางเศรษฐกิจของทาคาอิจิคล้ายกับอดีตนายกฯ อาเบะ เจ้าของนโยบาย “อาเบะโนมิกส์” ทาคาอิจินั้นสนับสนุนมาโดยตลอดให้รัฐบาลใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ และวิจารณ์ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ที่ใช้นโยบายการเงินตึงตัว

ระหว่างหาเสียงเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ทาคาอิจิมีท่าทีสายกลางมากขึ้น กล่าวว่า เธอไม่ได้โต้แย้งถึงความจำเป็นในการรวมงบประมาณ และจะปล่อยให้บีโอเจดูแลนโยบายการเงิน แต่เงินเยนอ่อนค่า และหุ้นขึ้นนับตั้งแต่เธอได้เป็นหัวหน้าพรรค จากความคาดหวังว่าจะมีการเร่งอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ และบีโอเจจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย

พรรคแอลดีพีกังวลที่สุดว่าเงินเยนอ่อนค่า จะยิ่งทำให้เงินเฟ้อรุนแรงขึ้น หลังจากพรรคถูกโหวตเตอร์ลงโทษในการเลือกตั้งระดับชาติสองครั้งในปีที่ผ่านมา โทษฐานที่พรรคไม่สามารถแก้ปัญหาค่าครองชีพสูงขึ้นได้ สิ่งนี้กำลังสร้างภาวะกลืนไม่เข้า คายไม่ออกให้กับทาคาอิจิหากเธอตั้งใจใช้นโยบายแบบเดียวกับอาเบะโนมิกส์

อีกหนึ่งเรื่องที่กำลังท้าทาย นายกฯ หญิง อย่างปัจจุบันทันด่วนคือ การทูต เริ่มตั้งแต่การประชุมผู้นำอาเซียนที่มาเลเซียในวันอาทิตย์ (26 ต.ค.68) จากนั้นคาดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐจะมาเยือนญี่ปุ่นในวันจันทร์ (27 ต.ค.68) ตามด้วยการประชุมผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) ในเกาหลีใต้

จะว่าไปแล้วเส้นทางการเป็นนายกฯ ของทาคาอิจิไม่ได้ราบรื่นเหมือนที่คาดกันไว้ในตอนแรก หลังจากชนะเลือกตั้งได้เป็นหัวหน้าพรรคแอลดีพีคนใหม่ในเดือนนี้ พรรคโคเมโตะที่ร่วมรัฐบาลกันมาตลอด 26 ปี ก็แตกหักกับพรรคแอลดีพีเมื่อวันที่ 10 ต.ค.68 เนื่องจากเห็นต่างกันในหลายประเด็น เช่น การกำกับดูแลเงินทุนทางการเมือง

พรรคแอลดีพี ซึ่งเก่าแก่ 70 ปี และเป็นรัฐบาลญี่ปุ่นมายาวนาน ต้องไปจีบพรรคนวัตกรรมญี่ปุ่นที่เพิ่งก่อตั้งมา 13 ปี มีฐานเสียงแข็งแกร่งในโอซากาทางภาคตะวันตกของประเทศ

เพื่อให้บรรลุสิ่งที่พรรคนวัตกรรมญี่ปุ่นเรียกว่า “การปฏิรูปอันเจ็บปวด” เช่น ลดจำนวน สส.ในสภา จ.โอซากา พรรคเรียกร้องความร่วมมือจากแอลดีพีใน 12 นโยบายแลกกับการเข้าร่วมเป็นรัฐบาลผสม หลังจากหารือในประเด็นดังกล่าวแล้วสองพรรคเห็นชอบร่วมรัฐบาลกัน

เล็งตั้งอดีตข้าราชการกระทรวงคลัง นั่ง รมว.คลังหญิงคนแรก 

สื่อญี่ปุ่นรายงาน ซานาเอะ ทาคาอิจิ มีแผนแต่งตั้งซัตสึกิ คาทายามะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหญิงคนแรกของประเทศ เนื่องจากมีมุมมองการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ และการคลังที่สอดคล้องกัน

แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า คาทายามะ ซึ่งเคยเป็นข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการคลังมาก่อน และยังเคยเป็นรัฐมนตรีด้านการฟื้นฟูภูมิภาค ถูกมองว่ามีมุมมองด้านเศรษฐกิจ และการคลังที่สอดคล้องกับทาคาอิจิ ซึ่งแสดงความกระตือรือร้นที่จะเพิ่มการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อกระตุ้นการเติบโต

หากคาทายามะได้รับการแต่งตั้งจริงตามที่เป็นข่าว ก็จะถือเป็นการส่งสัญญาณถึงการให้ความสำคัญกับประเด็นทางการคลัง และยังเป็นแรงสนับสนุนที่มากขึ้นสำหรับการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในสังคม โดยการแต่งตั้งทาคายามะจะเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการทำลาย “เพดานแก้ว” (Glass Ceiling) ในวงการการเมือง

คาทายามะ ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานคณะกรรมการวิจัยด้านระบบการเงินและการธนาคารของพรรคแอลดีพี มีภูมิหลังที่แข็งแกร่งในด้านเศรษฐกิจและการคลัง เธอเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่รับผิดชอบการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นภายใต้การบริหารของอดีตนายกฯ อาเบะ

ด้านตลาดหุ้นญี่ปุ่นขานรับความเป็นไปได้ที่ทาคาอิจิ จะขึ้นเป็นผู้นำรัฐบาล เนื่องจากมองว่าเธอมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายมากขึ้นเพื่อพยายามขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยดัชนีนิกเคอิตลาดหุ้นโตเกียวพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในวันอังคาร

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์