บริษัทเทค UAE ทุ่ม 6.5 หมื่นล้าน สร้าง ‘ศูนย์ข้อมูล AI ยักษ์’ ในโฮจิมินห์

บริษัทเทค UAE ทุ่ม 6.5 หมื่นล้าน สร้าง ‘ศูนย์ข้อมูล AI ยักษ์’ ในโฮจิมินห์

‘เวียดนาม’ กำลังก้าวขึ้นเป็นศูนย์เทคสำคัญของอาเซียน ด้วยการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนกว่า 65,000 ล้านบาท จากบริษัทเทค G42 ของ UAE เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูล AI ขนาดยักษ์ในนครโฮจิมินห์ ท่ามกลางความท้าทายด้านพลังงานในประเทศ

เว็บไซต์นิกเคอิ เอเชียรายงานว่า นครโฮจิมินห์กำลังต้อนรับการลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูลปัญญาประดิษฐ์ มูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์หรือ “ราว 65,000 ล้านบาท” จาก G42 บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกสหรัฐสอบสวนในข้อสงสัยเรื่องความเชื่อมโยงกับจีน

เจ้าหน้าที่ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ศูนย์ข้อมูลขนาด “ไฮเปอร์สเกล” แห่งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายของเวียดนามในการดึงดูดนักลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

ในปีนี้ เวียดนามได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมถึงรองนายกรัฐมนตรี 2 คน เดินทางไปยัง UAE หลายครั้ง เพื่อพบปะกับภาคธุรกิจ รวมถึงบริษัท G42 ด้วยในเดือนกันยายน โดยเวียดนามระบุว่า G42 ได้เสนอความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีของเวียดนามอย่าง FPT และ Viet Thai เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูลขนาด 70 เมกะวัตต์

เวียดนามคาดว่า ความต้องการใช้เซิร์ฟเวอร์จะเพิ่มสูงขึ้นจากกระแส AI และจากกฎหมายใหม่ที่บังคับให้ข้อมูลต้องเก็บไว้ภายในประเทศ 

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจบางแห่งยังลังเลที่จะลงทุนในศูนย์ข้อมูล เนื่องจากกังวลเรื่องปัญหาไฟฟ้า ความเป็นส่วนตัว และความเสี่ยงด้านความมั่นคง เช่น คำสั่งของรัฐบาลที่มีลักษณะเผด็จการซึ่งบังคับให้ต้องเปิดเผยข้อมูลผู้ใช้

แม้ว่า G42 จะมีบทบาทในเอเชียค่อนข้างน้อย แต่ปัจจุบันกำลังสร้างศูนย์ข้อมูล AI ที่ใหญ่ที่สุดนอกสหรัฐที่กรุงอาบูดาบี

ก่อนหน้านี้ สมาชิกสภาคองเกรส สหรัฐได้สอบสวนบริษัท G42 ในข้อสงสัยว่า “เกี่ยวโยงกับจีน” แต่ภายหลังบริษัทกลับได้รับการยอมรับจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้เข้าร่วมพิธีประกาศเปิดโครงการศูนย์ข้อมูลอาบูดาบีด้วยตนเอง

ขณะเดียวกัน บริษัทคริปโทเคอร์เรนซีของครอบครัวทรัมป์ก็เปิดเผยว่า บริษัทในเครือของ G42 จะลงทุน 2,000 ล้านดอลลาร์ในโทเคนดิจิทัลของตน

รัฐบาลเวียดนามได้แจ้งต่อบริษัท G42 เมื่อเดือนกันยายนว่า ให้บริษัทสนับสนุนการสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อใช้ในการดำเนินงานของศูนย์การเงินระหว่างประเทศในเวียดนาม และเข้ามามีบทบาทอย่างแข็งขันในการฝึกอบรมบุคลากรด้านเทคโนโลยีข้อมูล

อย่างไรก็ตาม อดีตเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจรายหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เปิดเผยกับนิกเคอิ เอเชียว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีระดับโลกส่วนใหญ่ยังคงเลือก “สิงคโปร์” เป็นฐานสำหรับตั้งศูนย์ข้อมูล เนื่องจากประเทศนั้นมีความปลอดภัยมากกว่าเวียดนาม

อีกหนึ่งประเด็นที่น่ากังวลของอุตสาหกรรมนี้คือ “พลังงาน” โดยในปี 2023 โรงงานหลายแห่งทางตอนเหนือของเวียดนามต้องเผชิญกับ “ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง”

“เงื่อนไขสำคัญที่สุดคือ การจ่ายพลังงานไฟฟ้า” เหงียน แทง ฟง ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปของบริษัท Kinden ซึ่งเป็นผู้ให้บริการวิศวกรรมไฟฟ้าสำหรับศูนย์ข้อมูลกล่าว “ศูนย์ข้อมูลด้าน AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ระดับพลังงานในขณะนี้ ยังไม่เพียงพอ”

 

อ้างอิง: nikkei

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์