ทรัมป์-นายกฯ ออสเตรเลีย ลงนามข้อตกลงแร่ธาตุสำคัญรับมือจีน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พบกับนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซีของออสเตรเลีย เมื่อวันจันทร์ (20 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นวอชิงตัน ทั้งสองทักทายกันอย่างอบอุ่น จากนั้นทรัมป์ได้แสดงความขุ่นเคืองใจที่นายเควิน รัดด์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำสหรัฐ อดีตนายกรัฐมนตรี เคยโพสต์โซเชียลมีเดียเมื่อปี 2022ว่า เรียกเขาเป็น “ประธานาธิบดีผู้ทำลายล้างมากที่สุดในประวัติศาสตร์” แต่ต่อมาก็ลบโพสต์นั้นทิ้งไป

ทรัมป์กล่าวว่า ไม่เคยรู้เรื่องคอมเมนท์วิจารณ์นั้นเลย แล้วถามว่าตอนนี้ทูตรัดด์อยู่ที่ไหน เมื่อหันไปเห็นเขานั่งอยู่ตรงข้ามโต๊ะ ทรัมป์เอ่ยปาก

“ยังไงผมก็ไม่ชอบคุณ และไม่มีวันชอบคุณ”

อย่างไรก็ตาม การเยือนครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่นอัลบาเนซีและทรัมป์ลงนามข้อตกลงแร่ธาตุที่ทรัมป์กล่าวว่า ผ่านการเจรจากันมาในช่วงไม่กี่เดือนหลัง อัลบาเนซีระบุว่า โครงการ 8.5 พันล้านดอลลาร์ “พร้อมดำเนินการ”

สำเนาข้อตกลงที่รัฐบาลทั้งสองเผยแพร่เผยว่า ในหกเดือนข้างหน้าสองประเทศจะลงทุนฝ่ายละ 1 พันล้านดอลลาร์ในโครงการเหมืองแร่และถลุงแร่ รวมถึงกำหนดราคาแร่ธาตุสำคัญขั้นต่ำ ความเคลื่อนไหวที่บริษัทเหมืองตะวันตกต้องการมานาน

แถลงการณ์เรื่องข้อตกลงจากทำเนียบขาวเสริมว่า การลงทุนจะพุ่งเป้าไปที่แหล่งแร่ธาตุสำคัญมูลค่า 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดถึงชนิดหรือสถานที่ตั้ง

“ราวหนึ่งปีนับจากนี้ เราจะมีแร่ธาตุสำคัญและแรร์เอิร์ธมากมาย จนคุณไม่รู้ว่าจะทำอะไรกับมัน” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว

เอ็กซิมแบงก์ประกาศลงทุนกว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์

ในเวลาต่อมาธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของสหรัฐ ผู้ทำหน้าที่ปล่อยกู้เพื่อการส่งออกให้กับรัฐบาล ประกาศจดหมายแสดงเจตจำนงเจ็ดฉบับรวมกว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์ ทำโครงการแร่ธาตุสำคัญในออสเตรเลีย

จดหมายดังกล่าวมีไปถึง Arafura Rare Earths, Northern Minerals,Graphinex, Latrobe Magnesium, VHM(VHM.AX), RZ Resources, และSunrise Energy Metals

การพบกันครั้งแรกที่ทำเนียบขาวของทรัมป์และอัลบาเนซีมีเรื่องจีนเป็นประเด็นสำคัญ โดยประธานาธิบดีสหรัฐยังสนับสนุนข้อตกลงเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์กับออสเตรเลียเพื่อส่งเสริมความมั่นคงในอินโดแปซิฟิก