'สันติภาพกาซา' จุดเริ่มต้น สั่นคลอนชะตา ‘เนทันยาฮู’

สำนักข่าวอัลจาซีราได้วิเคราะห์ถึงอนาคตของเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เมื่อวันศุกร์ (17 ต.ค.) ว่า สันติภาพกาซาอาจมาเร็วเกินไป นักวิจารณ์กล่าวโทษว่าอิสราเอลใช้สงครามเบี่ยงเบนความสนใจไปจากความท้าทายในตำแหน่งและอิสรภาพของเขา และแม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง ความท้าทายเหล่านั้นยังคงไม่หายไป

เนทันยาฮูพยายามชี้ว่าดีลหยุดยิงรอบนี้เป็นเหมือนชัยชนะ แต่ก็ถูกมองว่าเป็นฝีมือของบุคคลอื่น แล้วถ้าไม่มีสงครามอื่นๆ อีก เนทันยาฮูต้องเผชิญกับอะไรบ้าง ก่อนจะถึงการเลือกตั้งในปีหน้า แล้วความท้าทายเหล่านั้นอันตรายมากเพียงใด อัลจาซีราสรุปไว้ดังนี้

อิสราเอลจะต้องเจอกับการถูกโดดเดี่ยวจากนานาชาติหรือไม่

คำตอบคือ อิสราเอลไม่เคยถูกโดดเดี่ยวจากนานาชาติเท่านี้มาก่อน จนกระทั่งรัฐบาลของเนทันยาฮู

อัลจาซีราระบุว่า สงครามในกาซาคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 67,000 คน และหากอิสราเอลไม่สามารถห้ามนักข่าวทำข่าวเกี่ยวกับสิ่งที่รัฐบาลอิสราเอลทำในกาซา ก็อาจทำให้อิสราเอลถูกเมินมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การโดดเดี่ยวอิสราเอลเริ่มเห็นชัดมาหลายเดือนแล้ว จากวิสัยทัศน์ที่ต้องให้ประเทศเป็น “ซูเปอร์สปาตาร์” หรือการเปรียบเทียบประเทศเป็นรัฐกรีกโบราณที่มีความแข็งแกร่งทางทหารและการรบ ซึ่งส่งผลไม่ดีต่อตลาดหุ้นและค่าเงินของอิสราเอลอย่างมาก

พรรคร่วมฝ่ายขวาจะล่มสลายหรือไม่ 

คำตอบก็คือ อาจมีสิทธิล่ม แต่เนทันยาฮูได้ปูเส้นทางหลักเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว

อัลจาซีรารายงานว่า รัฐบาลเนทันยาฮูพึ่งพาฝ่ายขวาจัดมาตลอด ตั้งแต่ก่อนเกิดสงครามในกาซา และมีพันธมิตรที่สำคัญอย่างรัฐมนตรีคลัง และรัฐมนตรีความมั่นคงซึ่งเป็นคนที่คัดค้านการบรรลุดีลหยุดยิง และหากกลุ่มขวาจัดถอนตัวออกจากพรรคร่วม เขาก็เตรียมเสนอกฎหมาย ยกเว้นให้นักศึกษาชาวยิวเคร่งศาสนาไม่ต้องเกณฑ์ทหาร เพื่อดึงพรรคชาวยิวเคร่งศาสนากลับมาร่วมรัฐบาลและให้รัฐบาลอยู่รอดต่อไปได้

เนทันยาฮูจะยังถูกตัดสินมีความผิดก่ออาชญากรรมสงครามหรือไม่ 

คำตอบคือ อาจเป็นไปได้

ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICC) ได้ออกหมายจับเนทันยาฮู และโยอาฟ กัลแลนต์ อดีตรัฐมนตรีกลาโหม รวมถึงโมฮัมเหม็ด เดอีฟ ผู้บัญชาการทหารของกลุ่มฮามาส ที่อิสราเอลสังหารไปแล้วในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม และศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ก็กำลังพิจารณาข้อกล่าวหาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่ออิสราเอล ซึ่งหลายฝ่ายมั่นใจว่าเนทันยาฮูต้องรับผิดชอบหากมีคำตัดสินว่ามีความผิด

แม้ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดเวลาตัดสินคดี แต่หากศาลพบว่ามีความผิด ผลการตัดสินจะส่งไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อให้มีผลบังคับใช้ และผู้กระทำผิดเสี่ยงจำคุกสูงถึง 30 ปี

ทรัมป์จะทิ้งเนทันยาฮูหรือไม่ 

คำตอบก็คือ มีความเป็นไปได้เช่นกัน เพราะการช่วยเหลือของสหรัฐต่ออิสราเอลนั้นเริ่มจำกัดมากขึ้นแล้ว

ทรัมป์เคยแสดงความไม่พอใจอย่างมากที่อิสราเอลโจมตีคณะเจรจาของฮามาสในกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา และวิจารณ์ว่า เนทันยาฮูหลอกตนเอง และมีอีกหลายกรณีที่ทรัมป์เคยแสดงความไม่พอใจต่อเนทันยาฮู เช่น ทรัมป์เคยโกรธมากเมื่อเนทันยาฮูเป็นหนึ่งในผู้นำคนแรกๆ ที่แสดงความยินดีกับอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ชนะเลือกตั้งเมื่อปี 2020 และยังมีรายงานว่าเคยตัดการติดต่อกับนายกฯ อิสราเอลในเดือนพ.ค. เนื่องจากกังวลว่าเนทันยาฮูกำลังพยายามบงการเขา

หากอิสราเอลผิดใจกับสหรัฐ และปราศจากสหรัฐหนุนหลังแล้ว อาจทำให้ประเทศเผชิญกับความท้าทายหลายด้านได้

เนทันยาฮูจะถูกสอบสวนความล้มเหลวปกป้องพลเรือนจากฮามาสบุกหรือไม่

การสอบสวนเกี่ยวกับความล้มเหลวของกองทัพและหน่วยข่าวกรอง ก่อนฮามาสบุกโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2023 จนประชาชนในอิสราเอลเสียชีวิต 1,139 รายและถูกลักพาตัวไป 250 รายนั้น บ่งชี้ถึงความผิดพลาดและความสับสนของกองทัพและหน่วยข่าวกรองของอิสราเอลอย่างมาก

แม้เนทันยาฮูจะไม่ได้คัดค้านการสอบสวนเหล่านั้น แต่คัดค้านการสอบสวนบทบาทของรัฐบาลตนเอง โดยอ้างว่าอาจมีอคติทางการเมืองและไม่เหมาะสมในช่วงสงคราม

และหลังบรรลุดีลหยุดยิง ศาลฎีกาของอิสราเอลตัดสินเป็นเอกฉันท์ว่าไม่มี "ข้อโต้แย้ง" ใดๆ อีกต่อไปที่รัฐบาลอิสราเอลจะชะลอการหยุดยิง พร้อมให้เวลารัฐบาล 30 วันในการบรรลุดีลดังกล่าว

เนทันยาฮูต้องจำคุกหรือไม่ 

คำตอบคือ การจำคุกนั้นก็เป็นอีกหนึ่งชาตะกรรมที่นายกฯ อิสราเอลอาจต้องเผชิญ

เนทันยาฮูกำลังเผชิญกับคดีคอร์รัปชัน 3 คดี แต่การพิจารณาและตัดสินคดียังคงเผชิญกับความล่าช้าตลอดช่วงที่เกิดสงครามในกาซา

ทั้งนี้ข้อกล่าวหาทุจริตที่เนทันยาฮูเผชิญ ประกอบไปด้วยการติดสินบน การฉ้อโกง และการละเมิดความไว้วางใจ ซึ่งมีโทษจำคุก 10 ปี

ไม่ว่าอนาคตของเนทันยาฮูจะเป็นอย่างไร แต่สันติภาพในกาซานั้นยังไม่ได้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ แม้อิสราเอลและฮามาสจะบรรลุดีลหยุดยิงระยะแรก แต่ก็ยังมีการละเมิดการหยุดยิงเกิดขึ้น สันติภาพในกาซาจะเกิดขึ้นจริงก่อนเลือกตั้งนายกฯ อิสราเอลคนใหม่หรือไม่ ยังต้องติดตามกันต่อไป