Prince Bank กัมพูชาเจอวิกฤติแห่ถอนเงิน หลังบ.แม่ Prince Group ถูกสหรัฐ-อังกฤษคว่ำบาตร

Prince Bank กัมพูชาเจอวิกฤติแห่ถอนเงิน หลังบ.แม่ Prince Group ถูกสหรัฐ-อังกฤษคว่ำบาตร

Prince Bank ธนาคารรายใหญ่ในกัมพูชา เจอวิกฤติแห่ถอนเงินครั้งใหญ่ หลังบ.แม่ Prince Group ถูกสหรัฐ-อังกฤษคว่ำบาตรอ่วม

Prince Bank หนึ่งในธนาคารรายใหญ่ของกัมพูชาเผชิญวิกฤติถอนเงินฝากครั้งใหญ่ ซึ่งเหตุการณ์นี้ถูกมองว่าเป็นการถูกตอบโต้อย่างรุนแรง หลังจากรัฐบาลสหรัฐและอังกฤษออกมาตรการคว่ำบาตรต่อบริษัทแม่ Prince Group

สำนักข่าวโชซุนอ้างอิงสื่อต่างประเทศรายงานว่า ประชาชนจำนวนมากเข้าแถวต่อคิวยาวเหยียดตั้งแต่เช้าตรู่ที่หน้าธนาคารปรินซ์สาขาหลักในกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา และด้วยลูกค้าแห่ถอนเงินจำนวนมาก จึงก่อให้เกิดความวุ่นวายหนัก มีรายงานว่าบางสาขาถึงกับต้องระงับการถอนเงินชั่วคราวเนื่องจากขาดสภาพคล่อง

ปรากฏการณ์แห่ถอนเงินครั้งนี้เป็นผลมาจากมาตรการคว่ำบาตรอย่างรุนแรงอย่างเมื่อวันที่ 14 ต.ค. ของกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงการคลังสหรัฐรวมถึงรัฐบาลอังกฤษ โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มบริษัท Prince Group และ เฉิน จือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) Prince Group

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ฟ้องร้องเฉิน จือ ข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน ทั้งยังยื่นฟ้องยึดบิตคอยน์ (Bitcoin) จำนวน 127,271 บิตคอยน์ (ราว21.45 ล้านล้านวอน) ที่คาดว่าเฉิน และ Prince Group ฟอกมา นับเป็นคดียึดทรัพย์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐและมีรายงานว่า เฉินอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 40 ปี

ด้านรัฐบาลอังกฤษได้เพิ่ม ‘Golden Fortune Resort World’ ที่บริหาร ‘Prince Compound’ หนึ่งในฐานอาชญากรที่ตั้งอยู่ชานกรุงพนมเปญ เข้าไปในบัญชีรายชื่อบริษัทที่ถูกคว่ำบาตร ทั้งยังแบน Jinbei Group ธุรกิจโรงแรมและกาสิโนที่เชื่อมโยงกับ Prince Group และแพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัล ‘Byex Exchange’ นอกจากนี้ รัฐบาลอังกฤษยังได้อายัดทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์ที่เฉินเป็นเจ้าของในกรุงลอนดอน และห้ามไม่ให้ใช้ระบบการเงินของอังกฤษด้วย

อนึ่ง Prince Group เป็นกลุ่มบริษัทที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อเศรษฐกิจกัมพูชาผ่านการทำธุรกิจหลากหลาย รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการเงิน และมีรายงานว่าบริษัทก่ออาชญากรรมไร้มนุษยธรรมหลายรูปแบบ อาทิ การดำเนินการศูนย์ฉ้อโกงออนไลน์ที่ผิดกฎหมายเพื่อยักยอกเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากเหยื่อทั่วโลก และการค้ามนุษย์เพื่อดำเนินกิจกรรมฉ้อโกง

เมื่อความจริงอันน่าช็อกของบริษัทแม่ถูกเปิดเผย ความน่าเชื่อถือของปรินซ์แบงก์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยก็ลดลงฮวบฮาบในชั่วข้ามคืน ส่งผลให้คนแห่ถอนเงินสดมาสำรองไว้ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้น

ในขณะที่สถานการณ์เลวร้ายลง ปรินซ์แบงก์จึงออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า “มาตรการของสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) ของกระทรวงการคลังสหรัฐจะไม่ส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการดำเนินงานของธนาคาร เราจะบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าทั้งหมดด้วยความจริงใจและโปร่งใส” อย่างไรก็ตาม ความพยายามเหล่านี้ดูเหมือนไม่เพียงพอที่จะบรรเทาความกังวลของผู้ฝากเงินได้