รอยเตอร์สวิเคราะห์ ทุ่นระเบิด PMN-2 ในชายแดนติดตั้งใหม่จริง กัมพูชาปัดไม่ใช่ของตน

รอยเตอร์สวิเคราะห์ ทุ่นระเบิด PMN-2 ในชายแดนติดตั้งใหม่จริง กัมพูชาปัดไม่ใช่ของตน

รอยเตอร์ส วิเคราะห์หลักฐานภาพระเบิด พร้อมสอบถามผู้เชี่ยวชาญพบว่า ทุ่นระเบิด PMN-2 ในชายแดนไทย-กัมพูชา นั้น ติดตั้งใหม่จริง ขณะที่กัมพูชาปัดว่าไม่ใช่ระเบิดของตน และว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่พัฒนาโดยอเมริกา จีน หรือเวียดนาม

KEY

POINTS

  • รอยเตอร์สอ้างผู้เชี่ยวชาญอิสระ 4 รายที่ตรวจสอบภาพถ่าย และระบุว่า ทุ่นระเบิดที่พบเป็นรุ่น PMN-2 ที่เพิ่งถูกนำมาติดตั้งใหม่ไม่เกิน 2-3 เดือน โดยสังเกตจากสภาพที่ใหม่ ไม่มีพืชพรรณปกคลุม และชิ้นส่วนพลาสติกกับยางยังไม่เสื่อมสภาพ
  • ฝ่ายกัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยหน่วยงานทุ่นระเบิด (CMAA) โต้แย้งว่าการดูด้วยตาเปล่าไม่สามารถสรุปอายุของระเบิด 
  • กัมพูชาบอกว่าทุ่นระเบิดที่ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ อาจเป็นระเบิดของอเมริกา จีน หรือเวียดนาม

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า การเหยียบกับระเบิด บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 16 ก.ค.68 จุดชนวนให้เกิดการสู้รบนาน 5 วัน ระหว่างสองเพื่อนบ้านอาเซียน แม้ในที่สุดความขัดแย้งยุติลงหลังบรรลุดีลหยุดยิง แต่ยังคงมีข้อพิพาทในเรื่องทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 ที่พัฒนาในยุคโซเวียต ซึ่งยังมีเกลื่อนในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา และเป็นระเบิดที่รัฐบาลไทย-กัมพูชาเคยให้คำมั่นว่าจะไม่ใช้งาน

ไทยกล่าวโทษกัมพูชา ที่วางทุ่นระเบิดในหลายพื้นที่ตามชายแดน และบอกว่า PMN-2 ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บสาหัสอย่างน้อย 6 รายนับตั้งแต่เดือน ก.ค.

ด้านกัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาของไทย และว่าทหารไทยเหยียบกับระเบิดที่ไม่ใช่ PMN-2 ซึ่งติดตั้งไว้ตั้งแต่ช่วงสงครามกลางเมือง ซึ่งทำให้กัมพูชากลายเป็นหนึ่งประเทศที่มีทุ่นระเบิดมากที่สุดในโลก

นับแต่นั้นรัฐบาลพนมเปญได้วางตนเป็นผู้สนับสนุนระดับโลกในการต่อต้านการใช้ทุ่นระเบิด และลงทุนกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์รวมกับเงินบริจาคจากต่างชาติกำจัดทุ่นระเบิดในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา

เยชัว โมเซอร์-พวงสุวรรณ จาก Landmine Monitor ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรณรงค์แบนทุ่นระเบิดระหว่างประเทศ กล่าวว่า การใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา เป็นปฏิบัติการที่สวนทางกับพันธสัญญาต่อต้านทุ่นระเบิดของกัมพูชาอย่างน่าผิดหวัง

วิเคราะห์ภาพชิ้นส่วนระเบิด

รอยเตอร์สรายงานว่า กองทัพไทย ให้สิทธิรอยเตอร์สเข้าถึงภาพ และวิดีโอที่ระบุว่าเป็นปฏิบัติการกำจัดทุ่นระเบิด PMN-2 ของกองทัพบริเวณชายแดนที่เกิดเหตุการณ์เหยียบกับระเบิด เมื่อวันที่ 16 ก.ค.68 และพื้นที่อื่นที่ทุ่นระเบิดเกิดระเบิดในชายแดน เมื่อวันที่ 23 ก.ค.68

ในช่วงที่ไปเยือนแนวหน้าของกองทัพไทย รอยเตอร์สได้ถ่ายภาพสะเก็ดระเบิดที่หน่วยลาดตระเวนบอกว่ากู้มาจากจุดเกิดเหตุ และถ่ายภาพทุ่นระเบิดสภาพสมบูรณ์จากพื้นที่หลายสิบแห่งที่ไทยระบุว่าเก็บกู้ได้จากชายแดน

รอยเตอร์ส ได้ตรวจสอบชุดข้อมูลภาพถ่าย 7 ภาพ ที่แสดงให้เห็นว่าถ่ายในเวลาเดียวกันในขณะที่ไทยปฏิบัติการกำจัดทุ่นระเบิดในแนวหน้าระหว่างวันที่ 18-23 ก.ค.68 แต่ข้อมูลภาพไม่ได้ระบุรายละเอียดสถานที่ และรอยเตอร์สไม่สามารถยืนยันได้อย่างอิสระว่าภาพถ่ายเหล่านั้นถ่ายจากที่ใด

ผู้เชี่ยวชาญทุ่นระเบิดอิสระ 4 ราย ที่รอยเตอร์สขอให้ช่วยตรวจสอบภาพระเบิด กล่าวว่า ภาพดังกล่าวเผยให้เห็นทุ่นระเบิด PMN-2 ที่นำมาวางใหม่ แต่นักวิเคราะห์ไม่สามารถพิจารณาได้ว่าใครเป็นผู้วางทุ่นระเบิดดังกล่าว

หน่วยงานช่วยเหลือเหยื่อ และปฏิบัติการทุ่นระเบิดของกัมพูชา (CMAA) กล่าวกับรอยเตอร์สว่า การตัดสินว่าใครวางทุ่นระเบิดสามารถทำได้หลังจากมีการสืบสวนจากบุคคลที่สามอย่างเป็นกลางเท่านั้น และว่ากองทัพกัมพูชาไม่มีคลังสำรองทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่พร้อมใช้งาน

ลี ธัช รองประธานคนแรกของ CMAA ผู้รายงานตรงต่อนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต กล่าวว่า การเห็นด้วยสายตาเพียงอย่างเดียวไม่สามารถชี้ชัดถึงอายุของระเบิด

ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การสืบสวนของรัฐบาลชี้ว่า ทุ่นระเบิดที่ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บนั้นเป็นทุ่นระเบิด PMN-2 ที่นำมาวางใหม่ เพราะพบอยู่ในสภาพใหม่ และเห็นได้ชัดเจน

โฆษกฯ กล่าวว่า ไทยเป็นพันธมิตรสหรัฐมาอย่างยาวนาน และเป็นประเทศที่ไม่ได้เข้าถึงอาวุธยุคโซเวียตอย่างแพร่หลาย ไทยไม่เคยใช้ทุ่นระเบิด PMN-2

ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ยุติการผลิตทุ่นระเบิด PMN-2 ไปตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1990 นั้น ยังไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ เมื่อรอยเตอร์สติดต่อไป

ผู้เชี่ยวชาญชี้ ระเบิดเพิ่งติดตั้งใหม่

แอนดรูว เวียน สมิธ ผู้เชี่ยวชาญอิสระจากอังกฤษ กล่าวว่า สภาพของ PMN-2 จากภาพถ่ายของกองทัพไทย และรอยเตอร์ส บ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเพิ่งติดตั้งไม่เกินสองสามเดือน

สมิธกล่าวว่า PMN-2 รุ่นเก่าสังเกตได้จากตัวกรอบพลาสติกที่เปราะบางลงตามกาลเวลา และยังมีแผ่นยางที่สึกลงอย่างรวดเร็วเมื่ออยู่ในดิน โดยเห็นได้จากสิ่งสกปรกตามช่องที่สึกหรอ

ด้านโมเซอร์-พวงสุวรรณ บอกว่า ทุ่นระเบิดไม่มีรากไม้ และพืชพรรณปกคลุมเหมือนกับทุ่นระเบิดที่ถูกฝังในดินมานาน

ธัชจาก CMAA บอกว่า การกัดเซาะของดิน น้ำท่วม และการเปลี่ยนแปลงของพืชพรรณต่างๆ อาจทำให้ทุ่นระเบิดเก่าๆ เหมือนใหม่ได้กว่าเดิม แต่โมเซอร์-พวงสุวรรณ แย้งว่า น้ำท่วมอาจทำให้จุดติดตั้งทุ่นระเบิดเปลี่ยนไปได้ แต่ไม่ได้ทำให้ทุ่นระเบิดดูใหม่ขึ้น ขณะที่สมิธมองว่า ถ้าไม่นับรวมปัจจัยอื่นๆ ถือเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อที่น้ำท่วมจะชะล้างทุ่นระเบิดจนสะอาดหมดจด แล้วฝังลงดินอย่างเป็นระเบียบ

CMAA ระบุในแถลงว่า ทุ่นระเบิดที่ระเบิดเมื่อวันที่ 16 ก.ค.68 ไม่ใช่ PMN-2 และว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดของอเมริกา จีน หรือเวียดนาม

เมื่อถามว่าพิจารณาได้อย่างไรในเมื่อไม่สามารถตรวจสอบการบาดเจ็บของทหารไทยได้ นายธัช บอกว่า เป็นการประเมินเบื้องต้นจาก "รูปแบบการบาดเจ็บ" ที่สังเกตได้จากรายงานซึ่งอ้างอิงจากข้อมูลแบบเปิดที่มีจำกัด

ทั้งนี้ ภาพถ่ายที่ใช้วิเคราะห์ประเภททุ่นระเบิด ได้แก่ ภาพของเศษทุ่นระเบิดจากวันที่ 16 ก.ค.68 ของรอยเตอร์ส ซึ่งประกอบด้วย “ตัวหน่วงเวลา” ซึ่งเป็นส่วนที่ถูกบีบอัดเพื่อกระตุ้นกลไกการยิงของทุ่นระเบิด ในขณะที่ภาพถ่ายเศษทุ่นระเบิดเมื่อวันที่ 23 ก.ค.68 เผยให้เห็นลวดสปริง ซึ่งสมิธกล่าวว่า ทั้งสองอย่างนี้เป็นลักษณะเฉพาะของ PMN-2

แต่ธัช บอกว่าการจำแนกเศษทุ่นระเบิดจากภาพถ่ายมีข้อจำกัด และไม่มีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่ามีการกักตุนหรือการใช้ทุ่นระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาตในพื้นที่

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์