สหรัฐ ‘หยุดแสดง’ ข้อมูลเศรษฐกิจ โลกเริ่มตัดสินใจในความมืด

ชัตดาวน์สหรัฐที่ทำให้การเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจ ‘หยุดชะงัก’ กำลังสร้างแรงสะเทือนทั่วโลก ในยามที่นโยบายการเงินต่างต้องอิงข้อมูลจากอเมริกา นี่อาจกลายเป็น ‘ปลวก’ ที่กัดเซาะเสาความน่าเชื่อถือของดอลลาร์และเฟด และเพิ่มความเสี่ยงต่อการตัดสินใจผิดพลาดทั่วโลก
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า การหยุดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐซึ่งทำให้ “ข้อมูลเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการ” ถูกระงับการเผยแพร่ กำลังเริ่มสร้าง “หมอกแห่งความไม่แน่นอน” ให้กับผู้กำหนดนโยบายในญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ ที่ต้องอาศัยข้อมูลจากเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มของค่าเงิน การค้าระหว่างประเทศ และอัตราเงินเฟ้อของตนเอง
พูดอีกอย่างก็คือ “สิ่งที่เกิดขึ้นในอเมริกา ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในอเมริกา” เจ้าหน้าที่ทั่วโลกเตือนว่า หากสถานการณ์ “ขาดข้อมูล” จากการหยุดหน่วยงานของสหรัฐ ดำเนินต่อไปเป็นเวลานาน อาจทำให้การกำหนดนโยบายของประเทศต่าง ๆ ซับซ้อนขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดทางนโยบายขึ้น
“นี่เป็นปัญหาร้ายแรง เราหวังว่าสถานการณ์นี้จะได้รับการแก้ไขโดยเร็ว” คาซึโอะ อูเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ขณะพูดถึงอุปสรรคที่ธนาคารกำลังเผชิญในการตัดสินใจว่า จะกลับมาขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของญี่ปุ่นอีกคนหนึ่งกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “นี่ตลกสิ้นดี ประธานเฟดพูดอยู่เสมอว่า นโยบายของเฟดขึ้นอยู่กับข้อมูล แต่ตอนนี้ไม่มีข้อมูลให้พึ่งพาเลย” เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าว โดยปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อ
ด้านแคเธอรีน แมนน์ กรรมการนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) กล่าวว่า ประเด็นเรื่องความไม่แน่นอนของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ข้อถกเถียงความเป็นอิสระของเฟด และปัจจัยอื่น ๆ ไม่ได้มีผลโดยตรงต่อการอภิปรายเชิงนโยบายของ BOE เท่ากับการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายการค้า ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อราคาและแนวโน้มการส่งออก
อย่างไรก็ตาม เธอกล่าวว่า หากมองในระยะยาวจะเห็นว่า “ค่าเงินปอนด์อังกฤษ” ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของระบบการเงินโลก กำลังค่อย ๆ สูญเสียสถานะนั้นไป โดยเป็นกระบวนการที่กินเวลาหลายทศวรรษ และเกิดจากปัจจัยหลายด้านที่เธอเปรียบเปรยว่าเป็น “ปลวก” ที่ค่อย ๆ บ่อนทำลายบทบาทของปอนด์เมื่อเวลาผ่านไป
แคเธอรีน แมนน์กล่าวต่อว่า การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายที่อาจ “บั่นทอนความแข็งแกร่งของดอลลาร์” หรือ “ลดทอนความเป็นอิสระของเฟด” เป็นสิ่งที่เราคำนึงถึงอยู่เสมอ แม้จะไม่ใช่ประเด็นหลักในตอนนี้ แต่สิ่งเหล่านั้นก็คือ ปลวก
ด้านอดัม โพเซน ประธานสถาบัน Peterson Institute for International Economics และอดีตกรรมการนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษชี้ว่า การหยุดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ ยิ่งตอกย้ำความสงสัยต่อระบบการบริหารของสหรัฐ และความน่าเชื่อถือของประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เพราะในที่สุด สิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อการบริหารทุนสำรองระหว่างประเทศ การตัดสินใจด้านค่าเงิน และแนวโน้มความผันผวนของตลาดสหรัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมีมาก่อน
ทั้งนี้ “ช่องว่างขนาดใหญ่” ในข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ครอบคลุมราว 1 ใน 4 ของเศรษฐกิจโลก จากการปิดหน่วยงาน กำลังทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจ “มัวลงเรื่อย ๆ”
โรเบิร์ต คาห์น ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจมหภาคโลกของ Eurasia Group เผยว่า “แน่นอนว่า เรายังมีข้อมูลทางเลือก และผู้กำหนดนโยบายต่างทุ่มเทอย่างมากในการรวบรวมข้อมูลระดับจุลภาคและหลักฐานเชิงประจักษ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ” แต่เขาเตือนว่า “สิ่งที่ยังไม่รู้แน่ชัดคือ จะนำข้อมูลเหล่านั้นมารวมกันอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ และที่สำคัญคือ ตลาดจะตอบสนองต่อข้อมูลเหล่านี้อย่างไร เมื่อเวลาผ่านไป ความไม่แน่นอนจะยิ่งทวีคูณ และนั่นหมายถึง ความเสี่ยงต่อความผิดพลาดในการตัดสินใจที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ”
อ้างอิง: reuters







