ยักษ์เวียดนาม ‘ซันกรุ๊ป’ ตั้งสายการบินใหม่ หวังปั้น ‘ฟูก๊วก’ แข่ง ‘บาหลี-ภูเก็ต’

ยักษ์เวียดนาม ‘ซันกรุ๊ป’ ตั้งสายการบินใหม่ ซัน ฟูก๊วก แอร์เวย์ส หวังปั้น ‘ฟูก๊วก’ เกาะไข่มุกเวียดนาม แข่ง ‘บาหลี-ภูเก็ต’ จ่อขยายฝูงบิน 100 ลำใน 5 ปี รับการท่องเที่ยวขาขึ้น
กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ของเวียดนาม “ซัน กรุ๊ป” (Sun Group) ได้เปิดตัวสายการบินบริการเต็มรูปแบบแห่งใหม่ในชื่อ “ซัน ฟูก๊วก แอร์เวย์ส” (Sun PhuQuoc Airways - SPA) ในวันนี้ (16 ต.ค.68) โดยมีเป้าหมายทะเยอทะยานที่จะยกระดับ “เกาะฟูก๊วก” ซึ่งเป็นเกาะท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศ ให้เติบโตจนเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกเทียบเท่ากับบาหลีของอินโดนีเซีย หรือภูเก็ตของประเทศไทย
เหงียน มานห์ กวน (Nguyen Manh Quan) ซีอีโอ SPA ตั้งเป้าที่จะบุกเบิกตลาดการท่องเที่ยวที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วของประเทศ "เมื่อพูดถึงจุดหมายปลายทางรีสอร์ตในเอเชีย ผู้คนมักจะนึกถึงเกาะที่มีชื่อเสียงอย่างภูเก็ต บาหลี หรือเชจู แต่ทำไมถึงไม่นึกถึงฟูก๊วกล่ะ"
ฟูก๊วก เกาะไข่มุกเวียดนาม
เกาะฟูก๊วกที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเวียดนามใกล้กัมพูชา เป็นที่รู้จักในฐานะ "เกาะไข่มุก" ด้วยหาดทรายขาว น้ำทะเลใส พระอาทิตย์ตกที่งดงาม และการทำฟาร์มไข่มุก แต่เมื่อปีที่ผ่านมา เกาะแห่งนี้ยังคงมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพียง 6 ล้านคน ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับบาหลีที่มี 16 ล้านคน และภูเก็ตที่มีเกือบ 9 ล้านคน
“เมื่อฟูก๊วกกลายเป็นจุดหมายปลายทางระดับนานาชาติ มันจะสร้างตลาดใหม่ขึ้นมา โดยไม่ได้แย่งชิงส่วนแบ่งกับสายการบินอื่นๆ ในตลาดที่มีอยู่แล้ว” กวน กล่าว
ซัน กรุ๊ป ที่ได้ลงทุนอย่างหนักในบริการด้านการท่องเที่ยว และโครงสร้างพื้นฐานของเกาะฟูก๊วกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น สะพานทองคำรูปสองมือที่บานาฮิลล์ กระเช้าลอยฟ้าขึ้นสู่ยอดเขาฟานซีปัน และการสร้างท่าอากาศยานนานาชาติวันดอน
นอกจากรีสอร์ต ที่พัก และบริการความบันเทิงบนเกาะฟูก๊วกแล้ว ซัน กรุ๊ป ยังกำลังลงทุนประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ในการขยายสนามบินนานาชาติฟูก๊วก โดยรัฐบาลตั้งเป้าจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของสนามบินจาก 4 ล้านคนในปัจจุบันเป็น 10 ล้านคนภายในปี 2573
"ความท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมการบินของเวียดนามคือ การขาดโครงสร้างพื้นฐาน" ซึ่งเป็นเหตุผลที่ต้องมีการสร้าง และขยายสนามบินเพื่อรองรับศักยภาพการเติบโตของประเทศ
เร่งขยายฝูงบินรับ APEC 2027
SPA เตรียมสั่งซื้อเครื่องบินจากบริษัท Airbus SE และ Boeing รวม 100 ลำ ภายในระยะเวลา 5 ปี และจะเริ่มให้บริการด้วยเครื่องบิน Airbus A320 และ A321 โดยมีแผนจะเพิ่มเครื่องบิน A321 เป็นอย่างน้อย 6 ลำภายในสิ้นปีนี้ และมีเป้าหมายขยายฝูงบินเป็น 20 ลำ ภายในสิ้นปี 2569 ส่วนในระยะยาว ตั้งแต่ปี 2570 เป็นต้นไป มีแผนจะเพิ่มเครื่องบิน Boeing 787-9 และ 787-10 สำหรับเส้นทางบินอื่นๆ และตั้งเป้ามีฝูงบินรวม 100 ลำ ภายในปี 2573
เที่ยวบินเชิงพาณิชย์เที่ยวแรกของ SPA จะเริ่มในวันที่ 1 พ.ย. นี้ ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการที่เวียดนามจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ที่เกาะฟูก๊วกในปี 2570 ซึ่งคาดว่าจะดึงดูดผู้นำระดับโลก
ในช่วงแรก SPA จะเน้นที่การเชื่อมต่อเกาะฟูก๊วกกับจุดหมายปลายทางที่มีความต้องการสูงในเวียดนาม เช่น ฮานอย นครโฮจิมินห์ และดานัง โดยเส้นทาง ฮานอย-โฮจิมินห์ ถูกจัดอันดับโดย OAG ให้เป็นเส้นทางภายในประเทศที่พลุกพล่านที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกในปี 2567 กว่า 10.6 ล้านที่นั่ง
สำหรับเส้นทางระหว่างประเทศ SPA วางแผนจะเริ่มให้บริการในปี 2569 ไปยังประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น สิงคโปร์ ไทย และมาเลเซีย ก่อนจะขยายไปยัง เกาหลีใต้ ฮ่องกง ไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่ และจะเพิ่มเที่ยวบินไปยัง อินเดีย และตะวันออกกลาง เมื่อมีเครื่องบินลำตัวกว้าง
การท่องเที่ยวของเวียดนามกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีผู้โดยสารทางอากาศ 64.1 ล้านคนในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 10.7% จากปีก่อนหน้า
ปีนี้เวียดนามกลายเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเยือนอาเซียนเป็นครั้งแรก แซงหน้าราชาแห่งการท่องเที่ยวอย่าง “ไทย” ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะสกุลเงินท้องถิ่นของเวียดนามที่อ่อนค่าลง เสถียรภาพทางการเมือง และสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่เพิ่มมากขึ้น
“ตลาดใหญ่ที่อยู่ติดกับเราคือ จีน แต่ตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคือ เกาหลีใต้ และตลาดเกิดใหม่ที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดคือ อินเดีย” กวน กล่าว
อย่างไรก็ตาม การเข้าสู่ตลาดการบินของ SPA ไม่ใช่เรื่องง่าย โดย SPA ถือเป็นผู้เล่นรายใหม่ในตลาดการบินของเวียดนาม ซึ่งถูกครอบงำโดยผู้เล่นรายใหญ่สองรายคือ เวียดนาม แอร์ไลน์ส (Vietnam Airlines JSC) และสายการบินราคาประหยัด เวียตเจ็ท แอร์ (VietJet Aviation JSC)
เบรนแดน โซบี นักวิเคราะห์จาก Sobie Aviation ชี้ว่า "การแข่งขันกับกลุ่มสายการบินเวียดนาม แอร์ไลน์ส และเวียตเจ็ท ซึ่งมีขนาดใหญ่ และมีส่วนแบ่งทางการตลาดมหาศาลนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย สายการบินแบมบูเคยประสบปัญหา และตอนนี้เล็กลงมากหลังจากเกือบจะล้มละลาย”
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







