'หุ้นเอเชีย' แดงทุกตลาด รับความเสี่ยงสงครามการค้า 'สหรัฐ-จีน' รอบใหม่

ตลาดหุ้น 'จีน-ฮ่องกง' ร่วงหนักกว่า 2% วันนี้เอเชียแดงเถือกทั่วหน้า รับความเสี่ยงสงครามการค้า 'สหรัฐ-จีน' รอบใหม่ หลังสหรัฐขู่ขึ้นภาษีจีน 100% ขณะที่จีนก็ขู่ตอบโต้กลับ
ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิก เปิดตลาดมาร่วงลงหนักในวันจันทร์นี้ (13 ต.ค. 68) หลังจีนและสหรัฐหลังจีนต่างเพิ่มความเข้มงวดของ มาตรการทางการค้า และตอบโต้กันด้วยถ้อยแถลงที่แข็งกร้าว ทำให้ความตึงเครียดระหว่างสองเศรษฐกิจใหญ่ของโลกปะทุขึ้นอีกครั้ง
ดัชนีฮั่งเส็ง ฮ่องกง ลดลง 2.22% ขณะที่ ดัชนี CSI 300 ของจีนแผ่นดินใหญ่ร่วง 2.73% เงินหยวนออฟชอร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย 0.1% มาอยู่ที่ 7.1267 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจีน อายุ 10 ปี ลดลงกว่า 5 bsp เหลือ 1.752%
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จีนประกาศว่า “เราไม่กลัวสงครามการค้ากับสหรัฐ” หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่จะขึ้นภาษีตอบโต้รอบใหม่ในอัตราที่ “รุนแรง” ต่อสินค้านำเข้าจากจีน
โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวหาสหรัฐว่าใช้นโยบาย “สองมาตรฐาน” หลังทรัมป์ประกาศเมื่อวันศุกร์ว่าจะเก็บภาษีอีก 100% ต่อสินค้าจีน ภายหลังที่จีนออกมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากและสินค้ากลยุทธ์อื่น ๆ
โกลด์แมน แซคส์ ระบุในบันทึกวันอาทิตย์ว่า มาตรการเหล่านี้อาจสะท้อนว่าจีนกำลังพยายามเรียกร้องให้สหรัฐยอมอ่อนข้อเพิ่มขึ้นในการเจรจา
ตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคอ่อนแรงตามเช่นกัน
- ดัชนี ASX/S&P 200 ของออสเตรเลีย ลดลง 0.68%
- ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ ร่วง 2.35%
- ดัชนี Kosdaq ลดลง 2.24%
- ดัชนีตลาดหุ้นสิงคโปร์ ร่วงสูงสุด 1.5%
- ตลาดญี่ปุ่นปิดทำการเนื่องในวันหยุดราชการ
หวั่นฉุดตลาดหุ้นจีนที่กำลังทรงดี
บลูมเบิร์กระบุว่า แนวโน้มของสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตัน กำลังคุกคามและบั่นทอนแรงบวกอันร้อนแรงของตลาดหุ้นจีนในปีนี้ และอาจกดดันค่าเงินหยวนให้กลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง
“หุ้นจีนและค่าเงินหยวนอาจจะอ่อนค่าลง แต่ผมคาดว่าความกดดันคงจะเบากว่าที่ผมคิดไว้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน หลังจากโพสต์ของทรัมป์ในโซเชียลมีเดีย” ไมเคิล บราวน์ นักกลยุทธ์จาก Pepperstone Group กล่าว “แต่การอ่อนตัวบางส่วนก็ยังเป็นสิ่งที่ตลาดคาดหมายอยู่ดี”
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นจีน ที่จดทะเบียนในสหรัฐร่วงลงกว่า 6% ในวันศุกร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงแรงที่สุดนับตั้งแต่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศปะทุขึ้นในเดือนเม.ย. ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐเองก็ดิ่งหนักเช่นกัน โดยหุ้น Nvidia Corp. ซึ่งอยู่ท่ามกลางข้อพิพาทเรื่องการควบคุมการส่งออกระหว่างสองประเทศ ร่วงเกือบ 5% ขณะที่สกุลเงินตลาดเกิดใหม่โดยรวมก็อ่อนค่าลง
ความเสี่ยงของสงครามการค้ารอบใหม่นี้อาจเป็นภัยคุกคามต่อหนึ่งในตลาดหุ้นที่ทำผลงานดีที่สุดของปีนี้ และอาจทำให้เกิดข้อสงสัยอีกครั้งเกี่ยวกับ “ความน่าลงทุน” ของตลาดหุ้นจีน
ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกง พุ่งขึ้นแล้วกว่า 31% ในปีนี้ หลังจากเคยปรับตัวลดลงต่อเนื่องสี่ปีติดต่อกันจนถึงปี 2023 โดยได้แรงหนุนจากข้อตกลง “พักรบทางการค้า” กับสหรัฐ รวมถึงความคาดหวังเกี่ยวกับบทบาทของจีนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว หุ้น Alibaba พุ่งขึ้นมากกว่า 100% ขณะที่ Tencent เพิ่มขึ้นเกือบ 60%
ห่าว โจว หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Guotai Junan Hong Kong กล่าวว่า “ผมคาดว่าตลาดจีนจะร่วงลงในช่วงแรก แล้วค่อยฟื้นตัวอย่างระมัดระวัง...ยังมีคำถามอีกมากที่ยังไม่ได้รับคำตอบ”
ประเด็นหลักของการเจรจาระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตันในตอนนี้มุ่งไปที่ “การควบคุมการส่งออก” สหรัฐจำกัดการส่งออก ชิปเซมิคอนดักเตอร์ และ ชิป AI ที่จีนต้องการ ขณะที่จีนก็ตอบโต้ด้วยการจำกัดการส่งออกแร่หายากและแม่เหล็กที่สหรัฐต้องการเช่นกัน







