ภาวะผู้นำในยุค AI เริ่มจากเข้าใจความเป็นมนุษย์ | Leading For Future

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวข้ามขีดจำกัดไปทุกวัน คำถามที่แท้จริงที่ทุกคนต้องถามตัวเองอย่างเร่งด่วนไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่คือเราในฐานะมนุษย์จะทำอะไรเพื่อสร้างคุณค่าที่เหนือกว่า AI
ย้อนกลับไปเมื่อ 7 ปีก่อน ดิฉันเคยเชิญหุ่นยนต์โซเฟีย และ ดร. เดวิด แฮนสัน ผู้สร้างหุ่นยนต์ที่เหมือนมนุษย์ที่สุดในโลกมาประเทศไทย วันนั้นเธอบอกว่ามนุษย์มี 3 อย่างที่ AI ไม่มีวันแทนได้
1. การมองการณ์ไกล (Forward Thinking)
2. การทำงานร่วมกัน (Collaboration)
3. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
วันนี้เราเห็นปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวข้ามขีดจำกัดไปทุกวัน จนหลายคนเลิกกังวลแล้วว่า AI จะมาแทนที่เราหรือไม่? เพราะคำถามที่แท้จริงที่ทุกคนต้องถามตัวเองอย่างเร่งด่วนไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่คือเราในฐานะมนุษย์จะทำอะไรเพื่อสร้างคุณค่าที่เหนือกว่า AI
1. ขยายจุดแกร่งของความเป็นมนุษย์ เราต้องพัฒนาความสามารถที่ AI ไม่สามารถแทนที่ได้โดยเฉพาะสามด้านหลักที่แม้แต่ AI อย่างโซเฟียได้พูดไว้
- การมองการณ์ไกล (Forward Thinking) คือการใช้สติปัญญาและความเข้าใจในระดับโลกมาสร้างวิสัยทัศน์และกำหนดเส้นทางที่นำทางองค์กรผ่านความไม่แน่นอน
- การทำงานร่วมกัน (Collaboration) คือการสร้างความไว้วางใจและรวมพลังจากผู้คนที่หลากหลาย เพื่อสร้างสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ซึ่งต้องอาศัยความเห็นอกเห็นใจและทักษะมนุษย์ที่ AI ยังไม่สามารถเติมเต็มได้
- ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) คือการมีความกล้าที่จะตั้งคำถามกับสิ่งที่เป็นอยู่และมีความคิดสร้างสรรค์ในการริเริ่มการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
2. สร้างวัฒนธรรมการเป็นผู้นำร่วม (Interdependent Leadership Culture) โลกวันนี้ไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤตเพียงอย่างเดียว แต่เป็นวิกฤตซ้อนวิกฤต (Polycrisis) ที่ทุกอย่างเชื่อมโยง ซับซ้อน และขยายผลกระทบซึ่งกันและกัน เราพบทั้งความกดดันด้านการเปลี่ยนแปลงประชากรศาสตร์ ความกดดันด้านการดำเนินกิจการภายใต้ความยั่งยืน ความกดดันในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ไปจนถึงความกดดันทางการเมืองระหว่างประเทศ เพื่อนำองค์กรให้รอดพ้นภายใต้ความกดดันเหล่านี้ เราไม่สามารถรอผู้นำคนใดคนหนึ่งในการคิดและตัดสินใจได้อีกต่อไป แต่ต้องสร้างวัฒนธรรมที่เปลี่ยนจากการนำด้วยอำนาจหรือความเชี่ยวชาญไปสู่การสร้างผู้นำร่วม ที่ มองความขัดแย้งเป็นเรื่องจำเป็น มองความผิดพลาดเป็นสิ่งที่เรียนรู้ร่วมกันตัดสินใจโดยยึดเป้าหมายและจุดประสงค์ร่วมเป็นหลัก
3. ก้าวข้ามกรอบความคิดเรื่องการพัฒนาแบบเดิมๆ การเพิ่มพูนความรู้และทักษะ(Horizontal Development) นั้นเป็นสิ่งที่ AI ทำได้ดีกว่าเรามาก ความรู้และทักษะใหม่ ๆ จะล้าสมัยอย่างรวดเร็ว ผู้นำจึงต้องหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาแนวตั้ง (Vertical Development) ซึ่งคือการพัฒนากรอบความคิดของผู้นำ (Leadership Mindsets) และศักยภาพ(Capacity) อย่างไม่หยุดนิ่ง นั่นคือสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดในการเปลี่ยนผ่านสู่โลก AI เพื่อให้เรามีความสามารถในการคิดและตัดสินใจในเรื่องที่ซับซ้อนและคาดการณ์อนาคตได้ดีขึ้น
เพราะในวันที่เทคโนโลยีไปไกล จุดแข็งของมนุษย์เราไม่ใช่การแข่งกับ AI แต่คือการใช้คุณค่าของความเป็นมนุษย์ให้เต็มที่
ภาวะผู้นำในยุค AI จึงคือการเชื่อมทั้งจุดแกร่งของมนุษย์ พัฒนากรอบความคิด และสร้างวัฒนธรรมที่ทุกคนเติบโตไปด้วยกัน ไม่ใช่แค่เก่งขึ้น (Skillset) แต่ต้องพัฒนากรอบความคิด(Mindset) ให้มองเห็นลึกขึ้นและเชื่อมโยงได้กว้างขึ้น







