ทรัมป์ เริ่มเลิกจ้างพนักงานรัฐหลายพันคน อ้างชัตดาวน์หน่วยงาน

รัสเซลล์ โวท์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและงบประมาณทำเนียบขาว โพสต์ประกาศทาง X เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 ต.ค.) ระบุตัวย่อ RIF ที่หมายถึง “การลดจำนวนพนักงาน”

โฆษกสำนักงานบริหารและงบประมาณทำเนียบขาว ยืนยันว่า การลดจำนวนพนักงานได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และจะมีนัยสำคัญต่อขนาด และการครอบคลุมหน่วยงาน ซึ่งมีขึ้นตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเผยว่า หน่วยงาน 7 แห่งได้เริ่มเลิกจ้างพนักงาน มากกว่า 4,000 คน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พูดขู่บ่อยครั้งว่า จะดำเนินมาตรการชัตดาวน์หน่วยงาน เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ยึดมั่นอย่างยาวนาน ในการลดจำนวนพนักงานของรัฐบาลกลาง

ตามกฎหมาย รัฐบาลกลางจะต้องแจ้งการเลิกจ้าง ให้พนักงานทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน

หลังจากที่โวท์ได้โพสต์ข้อความ หน่วยงานรัฐสำคัญๆ อย่างกระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุขและบริการ (HHS) ยืนยันว่า กำลังออกประกาศแจ้งพนักงาน ขณะที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ซึ่งมีพนักงานรัฐจำนวนมาก ได้ระบุว่า มีการเลิกจ้างพนักงานในหน่วยงานความปลอดภัยทางไซเบอร์ และสำนักงานความปลอดภัยโครงสร้างพื้นฐาน

ด้านสหภาพแรงงานหลัก 2 แห่งของสหรัฐ ซึ่งได้แก่ สหพันธ์พนักงานรัฐบาลอเมริกัน และสหพันธ์แรงงานแห่งอเมริกาและสภาองค์กรอุตสาหกรรม ได้ยื่นร้องศาลเพื่อโต้แย้งขอความถูกต้องตามกฎหมาย จากแผนการเลิกจ้างที่โวท์ได้ประกาศไว้ในช่วงชัตดาวน์

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางสหภาพแรงงานเผย กระบวนการยื่นร้องได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ต่อศาลรัฐบาลกลางทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย เพื่อระงับดำเนินการดังกล่าวชั่วคราว

เอเวอเร็ตต์ เคลลีย์ ประธานสหพันธ์พนักงานรัฐบาลอเมริกัน ระบุว่า “ เป็นเรื่องน่าละอายที่รัฐบาลทรัมป์ ใช้ช่วงสถานการณ์ชัตดาวน์หน่วยงาน มาเป็นข้ออ้างไล่พนักงานออกหลายพันคนอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งล้วน ทำงานในหน่วยงานบริการที่สำคัญแก่ชุมชนต่างๆทั่วประเทศ

อ้างอิง BBC