Vingroup ระดมทุนภาคเอกชน ให้ดอกเบี้ย 10% สร้างเครือข่ายสถานีชาร์จอีวี

Vingroup กำลังระดมทุนจากภาคเอกชนเพื่อนำไปใช้พัฒนาและขยายเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยเสนออัตราดอกเบี้ยในช่วงเริ่มต้นของการระดมทุนครั้งนี้ที่ประมาณ 10% หรือน้อยกว่านั้น เพื่อขยายธุรกิจสถานีชาร์จภายใต้บริษัทลูกชื่อ V-Green
KEY
POINTS
- Vingroup กำลังระดมทุนจากภาคเอกชนเพื่อนำไปใช้พัฒนาและขยายเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV)
- เสนออัตราดอกเบี้ยในช่วงเริ่มต้นของการระดมทุนครั้งนี้ที่ประมาณ 10% หรือน้อยกว่านั้น
- เงินทุนจะถูกนำไปใช้ในธุรกิจสถานีชาร์จภายใต้บริษัทลูกชื่อ V-Green ซึ่งประธานบริษัทเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
- การระดมทุนนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จ EV ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานอ้างอิงแหล่งข่าววงในว่า กลุ่มบริษัท Vingroup JSC ของเวียดนาม กำลังระดมทุนกับภาคเอกชนเพื่อหาเม็ดเงินลงทุนจำนวน 500 ล้านดอลลาร์ เพื่อขยายเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โดยแหล่งข่าวคนดังกล่าวระบุว่า ทางกลุ่มบริษัทเริ่มหาเงินทุนจากเอกชนในช่วงปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา โดยดอกเบี้ยสำหรับการระดมทุนครั้งนี้ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นคาดว่าจะอยู่ที่ 10% หรือน้อยกว่านั้น
บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก ระบุว่า ข้อตกลงในครั้งนี้ถือเป็นการระดมทุนล่าสุดของ Vingroup และกลุ่มบริษัทย่อยอื่นๆ หลังจากที่เริ่มระดมทุนมาหลายรอบแล้ว ไม่ว่าจะเป็น อสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงโรงเรียนเอกชน ยกตัวอย่างเช่นธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า Vingroup ได้รับเงินกู้จำนวน 150 ล้านดอลลาร์จาก Barclays Plc เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเมื่อเดือนที่แล้ว และยังได้ใช้ประโยชน์จากวงเงินสินเชื่อภาคเอกชนจำนวน 510 ล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค.อีกด้วย
อุตสาหกรรมแท่นชาร์จบูม
ท่าทีครั้งนี้ของบริษัทเกิดขึ้นในขณะที่การลงทุนในธุรกิจสถานีชาร์จอีวีกำลังร้อนแรงขึ้นทั่วโลก จากข้อมูลของบริษัทวิจัย BloombergNEF ระบุว่า การลงทุนสะสมในโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ อีวีแตะระดับ 1.48 แสนล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปีที่แล้ว และคาดว่าจะพุ่งสูงถึง 3.86 แสนล้านดอลลาร์ภายในสิ้นทศวรรษนี้ ประเทศจีนครองมาร์เกตแคปสูงสุดในอุตสาหกรรมดังกล่าวทั้งโลกด้วยการติดตั้งสถานีชาร์จกว่า 850,000 แห่งเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมากกว่าจำนวนการติดตั้งของทั่วโลกถึงสองเท่า
บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก เผยว่า ฝ่าม เญิ้ต เวือง ประธาน Vingroup และผู้ก่อตั้ง VinFast ได้จัดตั้งธุรกิจย่อยเมื่อปีที่แล้วเพื่อพัฒนาเครือข่ายสถานีชาร์จ โดยเป็นที่รู้จักภายใต้ชื่อ V-Green โดยมีนายเวืองถือหุ้นอยู่ 90% และได้กล่าวเมื่อเดือนพ.ค.ว่า จะร่วมลงทุนรวม 300 ล้านดอลลาร์กับบริษัทอีกสี่แห่งเพื่อพัฒนาสถานีชาร์จทั่วประเทศอินโดนีเซีย
ตัวแทนของ Vingroup ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อตกลงนี้ แต่กล่าวว่า บริษัท "กำลังทบทวนและดำเนินการทางเลือกในการระดมทุนที่หลากหลายในฐานะส่วนหนึ่งของการดำเนินงานทางธุรกิจตามปกติของเรา เพื่อสนับสนุนแผนการพัฒนา ซึ่งรวมถึงโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า"
บริษัทยังขาดทุนอื้อ
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของสถานะทางการเงินของ VinFast ยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะผลการดำเนินงานที่ผ่านมายัง “ไม่สามารถชดเชยผลขาดทุน” ที่ขยายตัวในไตรมาสแรกได้ เนื่องจากผู้ผลิตอีวีสัญชาติเวียดนามรายนี้ ต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากแผนการขยายธุรกิจทั่วโลก
บริษัทฯ รายงานผลขาดทุนสุทธิที่ 712.4 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนหน้า ตามที่ระบุในเอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ แม้ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นประมาณ 150% แตะระดับ 656.5 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยต้นทุนการขาย และต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้น
ต้นทุนขายในช่วง 3 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 887.5 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 112.9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ตามเอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ ขณะที่ผลขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ 485.6 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่รายงาน เพิ่มขึ้น 20.3% จากปีก่อนหน้า







