จีนถอดบทเรียนรัสเซีย ใช้ ‘ทองคำ’ หนุนเชื่อมั่น ‘เงินหยวน’

ราคาทองคำพุ่งต่อเนื่อง เพิ่มความเชื่อมั่นสกุล ‘เงินหยวน’ ถอดบทเรียนรัสเซีย รับมือการคว่ำบาตรชาติตะวันตก หนุนอิทธิพลจีนในระบบการเงินโลก
“ราคาทองคำ” กำลังทำสถิติสูงสุดใหม่พุ่งทะลุ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ในปีนี้ ช่วยให้ “จีน” ก้าวเข้าใกล้เป้าหมายในการสร้างโลก “การเงิน” ที่มีสหรัฐเป็นศูนย์กลางน้อยลง ซึ่งเป็นการฉวยโอกาสในช่วงที่ความตึงเครียดระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น
จีนได้สะสมทองคำสำรองมานานกว่าทศวรรษ จนมีปริมาณสำรองทั้งหมด 2,264.32 ตัน มากเป็นอันดับที่ 6 ของโลก ซึ่งทองคำถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้จีน บรรลุเป้าหมายหลายอย่างได้ในคราวเดียว
การถือครองส่วนแบ่งตลาดทองคำโลกที่มากขึ้นจะช่วยผลักดันให้จีนเข้าใกล้บทบาทในเวทีระหว่างประเทศ และทองคำยังเป็นปัจจัยสนับสนุนการใช้งานสกุล “เงินหยวน” ในระดับสากล และอาจช่วยส่งเสริมความสำคัญให้กับฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางทางการเงินได้อีกด้วย
สำหรับผู้กำหนดนโยบายราคาทองคำที่สูงลิ่ว ได้ช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์สำรองของประเทศ และตอกย้ำแนวคิดที่ว่า การเพิ่มการถือครองทองคำจะช่วยเพิ่มเสน่ห์ของตลาดและสกุลเงินหยวนของจีนได้อีกด้วย
“หากจีนถือครองทองคำมากขึ้น ความน่าเชื่อถือของเงินหยวนก็จะเพิ่มขึ้น” Guo Shan จากบริษัทวิเคราะห์ Hutong Research กล่าวว่า
Guo Shan อธิบายถึงมุมมองของนักลงทุนว่า "ถ้าผมเป็นนักลงทุนและต้องการถือเงินหยวน คำถามแรกของผมคือ มูลค่าของเงินหยวนจะเป็นอย่างไรหากผมถือครองไว้เป็นเวลานานมาก? และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเกิดวิกฤติขึ้นมา?"
ดังนั้น การที่จีนถือครองทองคำไว้มากจะช่วยให้เกิดความมั่นใจ โดยนักลงทุนจะรับรู้ได้ว่าธนาคารกลางมีความสามารถในการสนับสนุนสกุลเงินนั้น ๆ ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในเสถียรภาพระยะยาวของเงินหยวน
Iikka Korhonen หัวหน้าสถาบันเพื่อเศรษฐกิจเกิดใหม่ของธนาคารฟินแลนด์ ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับจีนและรัสเซีย มองว่า "จีนกำลังพยายามดึงส่วนหนึ่งของระบบการเงินโลกให้ออกจากการควบคุมของสหรัฐ"
ในขณะที่ความน่าเชื่อถือของสหรัฐกำลังบั่นทอน จีนกำลังมองเห็นช่องทางในการก้าวขึ้นมาและสร้างระบบทองคำ เพื่อเป็นทางเลือกแทนระบบที่อยู่ภายใต้การครอบงำของสหรัฐ
จีนถอดบทเรียน ‘รัสเซีย’
จีนได้ศึกษาและเรียนรู้จากรัสเซียอย่างละเอียดเกี่ยวกับการสร้างความมั่นคงทางการเงินเพื่อรับมือกับการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก การที่รัสเซียสะสมทองคำจำนวนมากตั้งแต่ปี 2014 และใช้เป็นทุนสำรองของประเทศทำให้ รัสเซียสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ถูกคว่ำบาตร
ดังนั้น การเพิ่มทองคำสำรองของจีนควบคู่ไปกับการลดการถือครองพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐ จึงเป็นสัญญาณที่ชัดเจน
‘หยวน’ ยังมีความท้าทาย
แม้จะมีความพยายามอย่างต่อเนื่อง แต่ความสำเร็จในการส่งเสริมการใช้เงินหยวนและขยายอิทธิพลในตลาดการเงิน แต่หยวนยังมีความท้าทาย โดยเฉพาะตลาดโภคภัณฑ์ จากสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่คิดเป็นเงินหยวนสำหรับน้ำมันหรือทองแดงยังคงมีสภาพคล่องน้อยกว่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์
นอกจากนี้ ค่าเงินหยวนยังคงถูกควบคุมโดยธนาคารกลาง ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันกับตลาดทองคำในลอนดอน
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้นได้กลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ที่ทำให้จีนเร่งเดินหน้าแผนการสร้างระบบการเงินทางเลือกที่ลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ โดยมุ่งเน้นการใช้ทองคำเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสกุลเงินหยวนและขยายอิทธิพลทางการเงินของตนในเวทีโลก






