ค่ายอีวีทั่วโลก ‘แห่ลดราคาลง’ หลังรถจีนจุดสงครามราคา

ค่ายอีวีทั่วโลก ‘แห่ลดราคาลง’ หลังรถจีนจุดสงครามราคา

สงครามราคาอีวีปะทุขึ้นทั่วโลก หลังค่ายรถจีนหั่นราคาลงหนัก กระตุ้นค่ายรถต่างชาติให้เร่งลดราคาตาม เทสลาเปิดเกมหั่นราคาลงกว่า 10% ขณะที่ฮุนได ฟอร์ด จีเอ็ม และนิสสันต่างขยับตามทิศเดียวกัน เพื่อรับมือกองทัพรถจีนที่บุกตีตลาด

เว็บไซต์นิกเกอิ เอเชียรายงานว่า “สงครามราคารถยนต์ไฟฟ้า” กำลังลุกลามจากจีนไปยังทั่วโลก จนทำให้ผู้ผลิตรถอย่าง Tesla และ Nissan ต้องเร่งลดราคา เพื่อรักษาฐานลูกค้าไม่ให้ตีจากออกไป

เมื่อวันอังคาร (7 ต.ค.) เทสลาได้เปิดตัวรถยนต์หลักรุ่นใหม่ในสหรัฐ โดยมีราคาต่ำกว่ารุ่นที่ถูกที่สุดเดิมราว 10% พร้อมลดระยะทางการวิ่งและตัดออปชันตกแต่งภายในบางส่วน อย่างรุ่น Model Y SUV ใหม่เริ่มต้นที่ 39,990 ดอลลาร์ (1.3 ล้านบาท) ซึ่งถูกกว่ารุ่นปัจจุบันที่ราคาต่ำสุดอยู่ 5,000 ดอลลาร์ (1.6 แสนบาท)

การปรับราคาลงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลทรัมป์ “ยกเลิกมาตรการลดหย่อนภาษี 7,500 ดอลลาร์” สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ออกในสมัยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ส่งผลให้ Model Y และรถรุ่นยอดนิยมอื่น ๆ มีราคาสูงขึ้นประมาณ 20% เทสลาจึงต้องเร่งเปิดตัวรุ่นราคาประหยัดเพื่อรักษาฐานลูกค้าไว้

หุ้นของเทสลาร่วงลง 4% ในวันอังคาร ปัจจุบันเทสลาครองส่วนแบ่งตลาดอีวีในสหรัฐต่ำกว่า 50% จากเดิมที่เคยสูงกว่า 80% เมื่อ 5 ปีก่อน นักลงทุนจำนวนมากมองว่า การลดราคาครั้งนี้ยังไม่มากพอที่จะช่วยให้บริษัทฟื้นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ขณะเดียวกัน บริษัทรถอเมริกันอย่าง General Motors และ Ford Motor ต่างก็ทยอยลดราคารถยนต์ไฟฟ้า โดยมีแผนเปิดตัวรุ่นที่ราคาต่ำกว่า 30,000 ดอลลาร์เช่นกัน

ไม่เพียงเท่านั้น Hyundai Motor ก็ปรับลดราคารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ในสหรัฐลงมากถึง 20% จากไลน์อัปเดิม โดยซีอีโอโจเซ มูโนซระบุว่า บริษัทมีแผนจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าราคาย่อมเยาและแข่งขันได้ในยุโรป อินเดีย และจีน

ส่วนค่ายรถ Nissan ประกาศว่า ราคาขายแนะนำของรถ Leaf รุ่นมาตรฐานใหม่อยู่ที่ประมาณ 5.19 ล้านเยน ถูกกว่ารุ่นก่อนหน้า 60,000 เยน

ทั้งนี้ เทรนด์ลดราคาเหล่านี้ เกิดขึ้นจากแรงกดดันที่มาจากบีวายดี และผู้ผลิตรถยนต์จีนรายอื่น ที่ใช้กลยุทธ์ “ราคาต่ำ” เจาะตลาดญี่ปุ่น ในขณะที่ยอดขายในจีนชะลอตัว โดยบีวายดีเพิ่งลดราคาชั่วคราวของรถรุ่นยอดนิยมในญี่ปุ่นลงมากสุดถึง 1.17 ล้านเยนเมื่อเดือนก่อน

โกลด์แมนแซคส์คาดการณ์ว่า แม้ปีนี้รถยนต์ไฟฟ้าจะมีสัดส่วนเพียง 15% ของยอดขายรถทั่วโลก แต่การเติบโตจะเร่งขึ้นราวปี 2030 และแตะ 52% ภายในปี 2040 ในยุโรป 

“ในระยะยาว ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าจะลดลงทั่วโลก” ซันชิโระ ฟุคาโอะ (Sanshiro Fukao) นักวิจัยอาวุโสจากสถาบันวิจัยอิโตชูกล่าว “เรากำลังจะเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านจากตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยกลุ่มผู้ใช้ยุคแรก ไปสู่ยุคที่รถยนต์ไฟฟ้าราคาจับต้องได้จะกลายเป็นกระแสหลัก”

อ้างอิง: nikkei