ครุกแมนนักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล หนุนเดโมแครตงัดข้อ 'ชัตดาวน์'

พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล สนับสนุนจุดยืนของพรรคเดโมแครตที่งัดข้อกับทรัมป์จนนำไปสู่ภาวะชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐ เตือนวิกฤตระบบประกันสุขภาพกระทบคนหลายล้าน
พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล แสดงความเห็นสนับสนุนจุดยืนของพรรคเดโมแครตที่งัดข้อกับทรัมป์ จนนำไปสู่ภาวะชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐ (Government Shutdown) ครุกแมนหนุนให้พรรคเดโมแครตต่อรองต่ออายุงบอุดหนุนโอบามาแคร์ พร้อมเตือนวิกฤตประกันสุขภาพต่อคนหลายล้านหากโครงการเครติดภาษีปัจจุบันสิ้นสุด
รัฐบาลสหรัฐ ต้องปิดทำการบางส่วนนับตั้งแต่วันพุธ 1 ตุลามคม หลังจากวุฒิสภาไม่สามารถผ่านงบประมาณใช้จ่ายชั่วคราว (Continuing Resolution) ที่รัฐบาลทรัมป์เสนอเพื่อซื้อเวลาการเจรจาต่อรองงบประมาณประจำปี 2026 ที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้กับพรรคเดโมแครต โดยปีงบปี 2026 เริ่ม 1 ตุลาคม ปีนี้จนถึงสิ้นกันยายนปีหน้า คล้ายกับปีงบประมาณของไทย
รัฐบาลพรรครีพับลิกันที่มีเสียงข้างมากในวุฒิสภา (53 เสียงจากทั้งหมด 100) แต่ไม่สามารถหาเสียงสนับสนุนในเพียงพอ 60 เสียงขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนดให้ใช้เสียงข้างมากพิเศษ ( Supermajority)
พรรคเดโมแครตค้านงบชั่วคราวเพราะไม่พอใจที่ทรัมป์จะไม่ยอมต่อโครงการงบอุดหนุนเบี้ยประกันสุขภาพโอบามาแคร์
แต่พรรคเดโมแครตพร้อมที่ยกมือหนุนการเปิดทำการรัฐบาล แลกกับการขยายระยะเวลาขยายงบประมาณอุดหนุน หรือการให้เครดิตภาษีพิเศษสำหรับค่าเบี้ยประกันสุขภาพ (Enhanced Tax Credits) ในยุคไบเดน ซึ่งจะหมดอายุลงในสิ้นปีนี้
ไบเดนยอมให้คนอเมริกันจำนวนมากหักลดภาษีได้สูงเป็นพิเศษเพื่อบรรเทาความเดือนร้อนจากผลกระทบของโควิค-19 ระบาด สำหรับเงินจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพ
มีคนอเมริกันมากกว่า 24 ล้านคนที่ซื้อประกันสุขภาพจากบริษัทเอกชนภายใต้โครงการโอบามาแคร์ หรือชื่อทางการว่า Affordable Care Act ซึ่งเกือบทั้งหมดได้รับเงินอุดหนุนเบี้ยประกันบางส่วนจากงบประมาณรัฐบาล
ผู้มีสิทธิเข้าโครงการนี้กลุ่มคนงานที่ไม่มีประกันสุขภาพจากนายจ้าง คนทำงานอิสระเจ้า หรือของธุรกิจขนาดเล็ก รายได้มากเกินกว่าระดับที่จะเข้าโครงการ Medicaid สำหรับคนจน และอายุยังไม่แก่พอถึงเกณฑ์ที่จะเข้าโครงการ Medicare ซึ่งทั้งสองโครงการนี้มีมาก่อนโครงการโอบามาแคร์
กฎหมาย Affordable Care Act มุ่งทำให้ระบบประกันสุขภาพสหรัฐเข้าใกล้ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า
เตือนหายนะสำหรับคนหลายล้าน
ครุกแมน เห็นว่า หากรัฐบาลทรัมป์ไม่ต่ออายุเงินอุดหนุนออกไป ก็จะหมายถึงหายนะของคนอเมริกันหลายล้านครอบครัว
“ปริศนาทางการเมืองคือเหตุใดพรรครีพับลิกันจึงไม่เห็นถึงเรื่องนี้” ครุกแมนตั้งข้อสังเกตุ
ครุกแมนกล่าวว่า กฎหมายลดภาษีครั้งใหญ่ของทรัมป์ One Big Beautiful Bill ได้เลื่อนการตัดงบประมาณครั้งใหญ่ของโครงการประกันสุขภาพ Medicaid (ส่วนหนึ่งของระบบประกันสุขภาพที่มุ่งให้ประกันสุขภาพแก่ผู้มีรายได้น้อยฟรีเป็นหลัก) ออกไปอย่างระมัดระวังและอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมจนกระทั่งหลังการเลือกตั้งกลางเทอม
ครุกแมนสงสัยว่า ทำไมจึงไม่ยอมเลื่อนเวลาโครงการอุดหนุนเบี้ยประกันนี้ออกไปด้วยเพื่อรับมือกับวิกฤตเบี้ยประกันที่กำลังใกล้เข้ามา?
ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาพรรคเดโมแครตซึ่งได้พบกับทรัมป์เมื่อวันจันทร์ (29 ก.ย.) กล่าวว่าประธานาธิบดีดูเหมือนจะ “ไม่ทราบ” ถึงผลกระทบของเงินอุดหนุนที่จะหมดอายุลง
ครุกแมนกับโจนาธาน โคห์น ผู้เชี่ยวชาญดานประกันสุขภาพสหรัฐ เห็นพ้องต้องกันว่าพรรครีพับลิกันหลายคน เช่นเดียวกับทรัมป์ ไม่ได้ตระหนักถึงปัญหานี้ แล้วใครจะไปบอกพวกเขาได้?
“เท่าที่ผมทราบ ไม่มีนักวิเคราะห์ด้านสุขภาพที่มีความสามารถในการทำงานให้กับทรัมป์หรือพรรครีพับลิกันในรัฐสภาเลย” ครุกแมนกล่าว
ครุกแมนอ้างถึงการประมาณผลกระทบโดยสำนักวิจัยอิสระ KFF
ตัวอย่างเช่น จากข้อมูลตารางการจ่ายเบี้ยประกันรายปีของกลุ่มต่างนั้น ครอบครัวที่มีรายได้ต่อปี 18,000 ดอลลาร์ (115% เหนือเส้นความยากจน FPL) ปัจจุบันภายใต้โครงการอุดหนุนเบี้ยประกันพิเศษไม่ต้องเสียเบี้ยประกันสุขภาพเพราะรัฐอุดหนุนทั้งหมด แต่เมื่อโครงการนี้สิ้นสุดลง ต้องจ่าย 2.1% ของรายได้ หรือ 378 ดอลลาร์
ครอบครัวที่มีรายได้ 22,000 ดอลลาร์ต่อปี (121% ของ FPL) ปัจจุบันไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันเช่นกัน แต่ปีหน้าต้องจ่าย 3.6% ของรายได้ หรือ 794 ดอลลาร์ ครอบครัวที่มีรายได้ 45,000 ดอลลาร์ (288%ของ FPL) จ่ายเบี้ยประกัน 5.5% ของรายได้ หรือ 2,475 ดอลลาร์ แต่ปีหน้าจะเพิ่มเป็น 9.6% ของรายได้ หรือ 3,411 ดอลลาร์
KFF ประมาณว่า ภาระจ่ายเบี้ยประกันจะก้าวกระโดดขึ้นมากกว่าเท่าตัว โดยเพิ่มเฉลี่ยจาก 888 ดอลลาร์ในปี 2025 เป็น1,904 ดอลลาร์ในปี 2026
ครุกแมนเห็นว่า ในทางการเมืองแล้ว นับเป็นเหตุผลที่ดีสำหรับรัฐบาลพรรครีพับลิกันที่จะต่ออายุโครงการเครดิตภาษีพิเศษสำหรับเบี้ยประกันสุขภาพออกไป
“ชาวอเมริกันมากกว่า 24 ล้านคนได้รับความคุ้มครองด้านสุขภาพผ่านตลาดประกันตามพระราชบัญญัติการดูแลสุขภาพราคาประหยัด ซึ่งเกือบทั้งหมดได้รับเงินอุดหนุน และหากเงินอุดหนุนหมดอายุลง หลายครอบครัวจะต้องเผชิญกับผลกระทบทางการเงินอย่างร้ายแรง” ครุกแมนเตือน
อำนาจต่อรองของพรรคเดโมแครตในการกดดันให้ต่ออายุเงินอุดหนุนประกันสุขภาพโอบามาแคร์
แม้พรรคเดโมแครตมีเสียงข้างน้อยในทั้งสองสภา แต่ก็มีอำนาจต่อรองมากในวุฒิสภา
พรรครีพับลิกันครองเสียงส่วนใหญ่วุฒิสภา คือ 53 แต่เสียงไม่ถึง 60 เสียงขั้นต่ำในการผ่านกฎหมายงบประมาณ พรรคเดโมแครตมี เสียง 45 และวุฒิสมาชิกอิสระอีก 2 เสียงซึ่งมักโหวตไปกับพรรคเดโมแครต
ด้วยเหตุนี้ แม้จะมีเสียงข้างน้อยทั้งในสภาล่างและสภาบน เดโมแครตก็มีอำนาจต่อรองพอสมควร







