เงินเยนดิ่งต่ำสุดรอบ 8 เดือน หลังทาคาอิจิจ่อเป็นนายกฯ

เยนญี่ปุ่นยังคง ‘อ่อนค่าลงต่อเนื่อง’ หลัง ‘ซานาเอะ ทาคาอิจิ’ มีแนวโน้มจะเป็น นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น ซึ่งเธอจะเดินหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง นักลงทุนจึงเร่งเทขายเยนและหันกลับมาใช้กลยุทธ์ ‘แคร์รีเทรด’ อีกครั้ง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เงินเยนของญี่ปุ่นได้อ่อนค่าลงต่อเนื่องในวันนี้ (8 ต.ค.) โดย “
แตะระดับอ่อนค่าที่สุด” นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากชัยชนะที่ไม่คาดคิดของ “ซานาเอะ ทาคาอิจิ” ในการขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของญี่ปุ่น ปูทางสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ
เงินเยนอ่อนค่าลงถึงระดับ 152.34 เยนต่อดอลลาร์ และแตะระดับอ่อนค่าสูงสุดใหม่เมื่อเทียบกับ เงินยูโร นับตั้งแต่สกุลเงินร่วมยุโรปถือกำเนิดในปี 1999 อีกทั้งตลาดได้ปรับลดความคาดหวังต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) หลังจากชัยชนะของทาคาอิจิ นักการเมืองสายกระตุ้นเศรษฐกิจรายนี้
อารูป แชตเตอจี นักกลยุทธ์จาก Wells Fargo มองว่า “เรายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้นที่จะเห็นผลของการเปลี่ยนผู้นำพรรค LDP ต่อทิศทางนโยบายการคลังและนโยบายการเงิน โดย BOJ เองก็แสดงท่าทีไม่มั่นใจนัก ต่อการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนตุลาคมตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว”
เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนการประชุมครั้งต่อไปของธนาคารกลางญี่ปุ่น หนึ่งในที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจคนสนิทของทาคาอิจิกล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมจะเป็น “ช่วงเวลาที่เหมาะสมกว่า”
ทาคาอิจิ ซึ่งมีแนวโน้มจะก้าวขึ้นเป็น “นายกรัฐมนตรีคนต่อไปของญี่ปุ่น” ในการลงมติของรัฐสภาในวันที่ 15 ตุลาคม ได้แสดงท่าทีว่า เธอต้องการให้ BOJ ดำเนินการขึ้นดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง และสนับสนุนให้มีการสื่อสารอย่างใกล้ชิดระหว่างธนาคารกลางกับรัฐบาล
“สมมติฐานในที่นี้คือ รัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของซานาเอะ ทาคาอิจิ จะใช้ทุกอำนาจที่มีเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งขึ้น” คริส เทอร์เนอร์ และฟรานเชสโก เปโซล นักวิเคราะห์ของ ING แสดงความเห็น
“Takaichi trade ได้ส่งผลจริง ทำให้เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรชันขึ้น ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นแรง และค่าเงินเยนอ่อนค่าลง”
ใน “การอ่อนค่าของเงินเยน” ได้จุดความสนใจอีกครั้งต่อกลยุทธ์ยอดนิยมในอดีตที่เรียกว่า “แคร์รีเทรด” (Carry Trade) ซึ่งนักลงทุนจะกู้เงินสกุลเยนที่ให้ผลตอบแทนต่ำ เพื่อนำไปซื้อสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่น เรียลบราซิล หรือดอลลาร์ออสเตรเลีย
ขณะเดียวกัน เทรดเดอร์ได้ลดการเดิมพันว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะเข้มงวดนโยบายการเงิน โดยข้อมูลจาก Overnight index swaps ชี้ว่า ขณะนี้ตลาดให้น้ำหนักเพียง 25% ต่อโอกาสที่ BOJ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 30 ตุลาคม จากเดิมที่คาดไว้ราว 57% ก่อนการเลือกหัวหน้าพรรค
หลังผลการเลือกตั้งออกมา ธนาคาร Bank of America ได้ปรับคาดการณ์ให้เงินเยนอ่อนค่ามากขึ้น โดยคาดว่าค่าเงินเยนจะอยู่ที่ระดับ 155 เยนต่อดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ จากเดิมที่คาดไว้ที่ 153 เยน โดยให้เหตุผลว่า “ความเสี่ยงทางการเมืองและการคลังเพิ่มขึ้น”
ด้านธนาคาร Deutsche Bank ก็ปรับมุมมองจาก “เชิงบวก” มาเป็น “เป็นกลาง” ต่อเงินเยนหลังการลงคะแนนเช่นกัน
นอกจากนี้ ต้นทุนในการป้องกันความเสี่ยงจากการอ่อนค่าของเงินเยนยังพุ่งสูงขึ้น โดยส่วนต่างราคาที่นักลงทุนต้องจ่ายเพื่อป้องกันการร่วงของเงินเยน เมื่อเทียบกับการแข็งค่าของดอลลาร์ในเดือนข้างหน้า ได้เพิ่มแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี
อ้างอิง: bloomberg







