‘เรย์ ดาลิโอ’ แนะถือทองคำ 15% ในพอร์ต เกราะป้องกันความเสี่ยงช่วงวิกฤติ
‘เรย์ ดาลิโอ’ แนะถือทองคำ 15% ในพอร์ต แม้ราคาทะยาน 4,000 ดอลลาร์/ออนซ์ เกราะป้องกันความเสี่ยงช่วงวิกฤติเงินเฟ้อ ภูมิรัฐศาสตร์ และหนี้รัฐบาลพุ่ง
“เรย์ ดาลิโอ” ผู้ก่อตั้งบริษัทจัดการกองทุนยักษ์ใหญ่อย่าง Bridgewater Associates ได้ออกมาสนับสนุนให้นักลงทุนจัดสรรเงินลงทุนใน “ทองคำ” มากถึง 15% ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด แม้ว่าราคาจะพุ่งทะยานทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ระดับเกินกว่า 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 50% ในปีนี้
ดาลิโอ ให้ความเห็นที่งานกรีนิช อีโคโนมิก ฟอรัม เมื่อวันที่ 7 ต.ค.68 ที่ผ่านมาว่า "ทองคำเป็นสินทรัพย์กระจายความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยมมากในพอร์ตการลงทุน การมีทองคำประมาณ 15% นั้นถือเป็นมุมมองการจัดสรรสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ เพราะเป็นสินทรัพย์ที่มักจะให้ผลตอบแทนที่ดีมากในช่วงที่สินทรัพย์ทั่วไปอื่นๆ ในพอร์ตตกต่ำ"
แนะถือครอง 'ทองคำ' ช่วงวิกฤติ
ดาลิโอ ระบุว่า การพุ่งขึ้นของราคาทองคำนี้คล้ายคลึงกับช่วงต้นทศวรรษ 1970 ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาทองคำเคยทะยานขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงที่เกิดอัตราเงินเฟ้อสูง และความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ โดยมองว่าทองคำเป็น เครื่องมือเก็บรักษามูลค่าที่แข็งแกร่ง ในช่วงเวลาที่ ภาระหนี้ของรัฐบาลเพิ่มสูงขึ้น, ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขึ้น และความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของสกุลเงินประจำชาติลดลง
“มันเหมือนกับช่วงต้นยุค 70 มาก... คุณจะเอาเงินไปไว้ที่ไหน การถือเงินสดหรือตราสารหนี้จำนวนมากในสภาวะเช่นนี้ ไม่ใช่การเก็บรักษาความมั่งคั่งที่มีประสิทธิภาพ”
คำแนะนำของดาลิโอที่ให้ถือทองคำในสัดส่วนสูงถึง 15% นั้น แตกต่างจากคำแนะนำพอร์ตโฟลิโอทั่วไป ของที่ปรึกษาทางการเงินส่วนใหญ่ ที่มักแนะนำให้ถือหุ้น และพันธบัตรในอัตราส่วน 60-40 โดยสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทองคำ และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ มักจะถูกแนะนำให้มีสัดส่วนเพียงตัวเลขหลักเดียวต่ำๆ เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม Jeffrey Gundlach ซีอีโอของ DoubleLine Capital ก็เพิ่งแนะนำให้ถือครองทองคำในสัดส่วนที่สูงถึง 25% เช่นกัน โดยเชื่อว่าทองคำจะยังคงโดดเด่นจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
สุดท้าย ดาลิโอย้ำว่าทองคำถือเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่สำคัญ ในช่วงที่ค่าเงินตกต่ำ และมีความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ เพราะ “ทองคำเป็นสินทรัพย์เพียงอย่างเดียวที่ใครๆ ก็สามารถถือครองได้ และคุณไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครให้จ่ายเงินให้คุณ”
เตือนระวัง "ฟองสบู่ AI"
นอกจากเรื่องทองคำแล้ว ดาลิโอแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI) ซึ่งทำให้เขาวิตกถึงการเกิด "ฟองสบู่ปัญญาประดิษฐ์"
ดาลิโอเปรียบเทียบกระแสการเก็งกำไรใน AI ว่ามีลักษณะคล้ายกับช่วงปลายทศวรรษ 1920 ที่มีการเก็งกำไรเกินจริงจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และยุคดอตคอม ในช่วงปลายทศวรรษ 1990
ขณะเดียวกัน ดาลิโอยังคงมองเห็นโอกาสในการทำกำไรจาก AI ทั้งจากบริษัทที่นำ AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
ในส่วนของการลงทุนในต่างประเทศ ดาลิโอ กล่าวว่า ยังคงชื่นชอบจีน แต่ตอนนี้มีการลงทุนในสหรัฐอเมริกามากกว่า โดยระบุว่าทั้ง 2 ประเทศต่างก็มีความท้าทาย และข้อดี แต่การลงทุนในจีนนั้นค่อนข้างถูกกว่า แม้จะมีปัญหาเรื่องกระแสเงินทุนหมุนเวียน และประเด็นอื่นๆ ก็ตาม
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์