ว่าที่นายกฯ หญิงญี่ปุ่น 'ซานาเอะ ทาคาอิจิ' ผู้ดันตลาดหุ้นทุบสถิติใหม่ 3 วันติด

ว่าที่นายกฯ หญิงญี่ปุ่น 'ซานาเอะ ทาคาอิจิ' ผู้ดันตลาดหุ้นทุบสถิติใหม่ 3 วันติด

รู้จักว่าที่นายกฯ หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น 'ซานาเอะ ทาคาอิจิ' ผู้ดันตลาดหุ้นญี่ปุ่นทุบสถิติสูงสุดติดต่อกัน 3 วันทำการ ฉุดเงินเยนอ่อนค่าลงครั้งใหญ่ ส่องแนวนโยบายกดเงินเฟ้อ-ควบคุมต่างชาติ และความเป็นไปได้ในการฟื้นนโยบาย 'อาเบะโนมิกส์'

สังคมชายเป็นใหญ่อย่าง "ญี่ปุ่น" กำลังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เมื่อ "ซานาเอะ ทาคาอิจิ" ชนะการลงมติขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) หรือพรรครัฐบาลของญี่ปุ่นเมื่อวันอาทิตย์ ปูทางไปสู่การขึ้นเป็น "นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น" ซึ่งคาดว่าจะมีการลงมติรับรองในรัฐสภาวันพุธที่ 15 ต.ค. นี้

ทว่าการเป็นผู้นำหญิงก็ไม่ใช่เส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ และไม่มีอะไรรับประกันว่าเธอจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์การเป็นนายกฯ หญิงเหล็กได้เหมือนกับ "มากาเร็ต แธตเชอร์" แห่งเกาะอังกฤษ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจทางการเมืองของเธอได้หรือไม่ เพราะญี่ปุ่นกำลังเต็มไปด้วยความท้าทายใหญ่ๆ ทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง และภูมิรัฐศาสตร์ ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีไปถึง 4 คน ในช่วง 5 ปีมานี้

มือกลองเฮฟวี่เมทัล

ทาคาอิจิไม่ได้มาจากตระกูลนักการเมืองที่ส่งเธอเข้าสู่เส้นทางนี้ พ่อเป็นพนักงานบริษัท แม่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สมัยที่ยังเรียนอยู่เธอเป็นมือกลองเพลงเฮฟวี่เมทัลที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุดันจนต้องสะสมไม้ตีกลองเพราะทำหักบ่อย

ว่าที่นายกฯ หญิงญี่ปุ่น \'ซานาเอะ ทาคาอิจิ\' ผู้ดันตลาดหุ้นทุบสถิติใหม่ 3 วันติด

เธอยังมีงานอดิเรกอย่างดำน้ำ และชื่นชอบความเร็วทั้งมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ รถสปอร์ตคันโปรดของเธออย่าง Toyota Supra ถูกจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ในจังหวัดนาราที่เป็นบ้านเกิด เธอยังเคยทำงานเป็นผู้ประกาศข่าวทีวีช่วงสั้นๆ และเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ก่อนเข้าสู่งานการเมือง   

ว่าที่นายกฯ หญิงญี่ปุ่น \'ซานาเอะ ทาคาอิจิ\' ผู้ดันตลาดหุ้นทุบสถิติใหม่ 3 วันติด

นักการเมืองสายเหยี่ยว 

แม้จะเป็นนักการเมืองหญิงที่มีอยู่น้อยนิดในรัฐสภาญี่ปุ่น แต่ทาคาอิจิ วัย 64 ปี ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง อาทิ รัฐนตรีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ, รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในและการสื่อสาร และรัฐมนตรีฝ่ายกิจการความเท่าเทียมทางเพศ ไม่ได้โดดเด่นเรื่องความเป็นเฟมินิสม์ เธอกลับเป็นที่รู้จักในฐานะนักการเมืองอนุรักษ์นิยม "สายเหยี่ยว" ที่มีมุมมองด้านความมั่นคงอย่างแข็งกร้าวมากกว่า โดยเธอมักไปเยือนศาลเจ้ายาสุกุนิเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลก ซึ่งถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของลัทธิทหารในอดีตในสายตาของประเทศเพื่อนบ้านชาวเอเชีย 

ทาคาอิจิยังสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญหลังสงครามของญี่ปุ่น เพื่อให้ตระหนักถึงบทบาทของกองกำลังป้องกันตนเองญสี่ปุ่นที่กำลังขยายตัว และเธอเพิ่งเสนอประเด็นใหม่ในปีนี้ให้ญี่ปุ่นสามารถจัดตั้ง "กองกำลังพันธมิตรกึ่งความมั่นคง" กับไต้หวัน จนจีนเริ่มส่งสัญาณเตือนออกมา

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุในแถลงการณ์ว่า จีนต้องการให้ญี่ปุ่นดำเนินนโยบายที่เป็นบวกและมีเหตุผลกับจีน และส่งเสริมความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์และผลประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีนได้เรียกร้องให้ญี่ปุ่นปฏิบัติตามเอกสารทางการเมืองทวิภาคีสี่ฉบับ รวมถึงแถลงการณ์ร่วมปี 1972 ซึ่งญี่ปุ่นระบุว่าเข้าใจและเคารพจุดยืนของจีนที่ว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่ไม่สามารถแยกออกจากดินแดนจีนได้ 

ในเชิงสังคมนั้น ทาคาอิจิเริ่มมีมุมมองเชิงเฟมินิสม์มากขึ้นในระยะหลัง โดยให้คำมั่นที่จะเพิ่มจำนวนรัฐมนตรีหญิง ซึ่งเป็นประเด็นที่ญี่ปุ่นยังตามหลังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม G7 แต่ผลสำรวจความเห็นชาวญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่า จุดยืนอนุรักษ์นิยมของเธอสอดคล้องกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง

แม้ว่าทาคาอิจิจะให้คำมั่นที่จะเพิ่มจำนวนรัฐมนตรีหญิง ซึ่งเป็นประเด็นที่ญี่ปุ่นยังตามหลังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม G7 แต่ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยังมีมุมมองเชิงอนุรักษ์นิยมมากกว่า เธอคัดค้านการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน แต่สนับสนุนให้คู่สมรสใช้นามสกุลแยกกันได้ ซึ่งเป็นประเด็นที่ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากสาธารณชนในญี่ปุ่น แต่ประเด็นนี้ก็กำลังเผชิญกับการต่อต้านอย่างหนักจากกลุ่มอนุรักษ์นิยม

สืบทอด “อาเบะโนมิกส์” - จับตานโยบายใหม่

ทาคาอิจิ นับผู้เป็นผู้สืบทอดแนวทางของอดีตนายกรัฐมนตรี "ชินโซ อาเบะ" ผู้ล่วงลับ และสนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ “อาเบะโนมิกส์” มายาวนาน โดยเรียกร้องให้มีการใช้จ่ายทางการคลังเพิ่มขึ้น และลดภาษีเพื่อบรรเทาปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ว่าที่นายกฯ หญิงญี่ปุ่น \'ซานาเอะ ทาคาอิจิ\' ผู้ดันตลาดหุ้นทุบสถิติใหม่ 3 วันติด

การยึดมั่นในมุมมองที่ว่าญี่ปุ่นควรกลับไปใช้นโยบายอาเบะโนมิกส์ ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลกระตุ้นการใช้จ่ายทางการคลัง ควบคู่ไปกับการผ่อนคลายทางการเงินเชิงรุก (นโยบายดอกเบี้ยติดลบ) มาเกือบทศวรรษ ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าอาจมีการฟื้น “นีโอ-อาเบะโนมิกส์” ขึ้นมาใหม่ 

ทาคาอิจิกล่าวในสุนทรพจน์ครั้งแรกในฐานะหัวหน้าพรรคแอลดีพีว่า "การแก้ไขวิกฤติค่าครองชีพ" เป็นเรื่องสำคัญที่สุด เธอกล่าวว่าวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) รวมถึงภาคเกษตรกรรมและประมง ต่างได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้น "ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ" ทาคาอิจิยังย้ำคำมั่นสัญญาในการหาเสียงที่จะยกเลิกภาษีน้ำมันเบนซิน "ชั่วคราว" ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2517 เพื่อลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิง โดยหวังว่าจะช่วยลดเงินเฟ้อได้

แม้จะเป็นสายเหยี่ยวในทางการเมือง แต่ในทางเศรษฐกิจเธอคือสายพิราบที่สนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงินและการคลัง เธอเคยวิพากษ์วิจารณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของบีโอเจในอดีต แต่ได้ลดทอนความคิดเห็นเรื่องนี้ระหว่างการหาเสียงที่ผ่านมา 

ส่วนในทางการคลังนั้น เธอทราบดีถึงความกังวลเรื่องหนี้ และได้กล่าวในสุนทรพจน์ว่า "เธอไม่เคยพูดว่าไม่จำเป็นต้องมีการปฏิรูปทางการคลัง" เธอตระหนักว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีหนี้มากที่สุดในบรรดาประเทศพัฒนาแล้ว โดยมีหนี้สาธารณะมากกว่าสองเท่าของขนาดจีดีพี แต่ด้วยจำนวนประชากรจำนวนมากที่กำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่สูง รัฐบาลจึงต้องทำหน้าที่บรรเทาปัญหานี้"

ทาคาอิจิกล่าวว่าจะมุ่งเน้นการลงทุนในด้านต่างๆ เช่น พลังงานและความมั่นคงทางอาหาร รวมถึงโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเธอกล่าวว่าจะสร้างอุปสงค์และนำไปสู่รายได้ของรัฐที่เพิ่มขึ้น 

"ฉันจะสนับสนุนการใช้จ่ายอย่างชาญฉลาด และการลงทุนที่จะเพิ่มรายได้จากภาษี" ทาอิจิกล่าว โดยเธอ "ไม่ตัดความเป็นไปได้ในการลดภาษีการบริโภค" ซึ่งเป็นนโยบายที่พรรคฝ่ายค้านเสนอในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อเดือนก.ค. 

ว่าที่นายกฯ หญิงญี่ปุ่น \'ซานาเอะ ทาคาอิจิ\' ผู้ดันตลาดหุ้นทุบสถิติใหม่ 3 วันติด

ในระหว่างการหาเสียง เธอให้คำมั่นว่าจะเข้มงวดกับ "ชาวต่างชาติ" ในญี่ปุ่นมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้สมัครส่วนใหญ่ต่างเห็นพ้องต้องกัน โดยวิตกต่อการที่ฐานเสียงอนุรักษ์นิยมของพรรคกำลังถูกแย่งไปโดยพรรคขวาจัดซันเซโตะ แม้เธอจะยอมรับถึงความจำเป็นของแรงงานต่างชาติ เนื่องจากจำนวนประชากรของประเทศกำลังลดลง แต่เธอก็ย้ำว่าการเปิดรับแรงงานต่างชาตินั้นควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ตลาดทุนตอบรับอย่างไร

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นขานรับในเชิงบวกด้วยการปิดตลาดในระดับ "สูงสุดทุบสถิติใหม่ 3 วันทำการติดต่อกัน" แม้ว่าวันศุกร์จะยังไม่ใช่ปัจจัยจากตัวผู้นำคนใหม่ก็ตาม ตลาดหุ้นขานรับอย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ 6 ต.ค. ในวันทำการแรกหลังจากที่ทาคาอิจิชนะศึกเลือกหัวหน้าพรรคแอลดีพี ตอบรับทิศทางของว่าที่นายกฯ หญิงคนใหม่ที่มีแนวโน้มกระตุ้นเศรษฐกิจและไม่เห็นด้วยการขึ้นดอกเบี้ยต่อของแบงก์ชาติญี่ปุ่น 

ว่าที่นายกฯ หญิงญี่ปุ่น \'ซานาเอะ ทาคาอิจิ\' ผู้ดันตลาดหุ้นทุบสถิติใหม่ 3 วันติด

"ดัชนีนิกเกอิ" ปิดตลาดวันจันทร์ที่ระดับ 47,944.76 จุด พุ่งขึ้น 2,175.26 จุด หรือ +4.75% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ติดต่อกันสองวันทำการ  โดยได้แรงหนุนจาก "ค่าเงินเยน" ที่อ่อนค่าลงสู่ช่วงกรอบล่างของ 150 เยนต่อดอลลาร์ จาก 147 เยนต่อดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ โดยคาดหวังถึงแนวโน้มการผ่อนคลายทางการเงินและการคลังจากว่าที่นายกฯ คนใหม่
 
ล่าสุดในวันอังคารนี้ (7 ต.ค.) ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 47,950.88 จุด เพิ่มขึ้น 6.12 จุด หรือ +0.01% นับเป็นการปิดตลาดในระดับ All-time high ติดต่อกัน 3 วันทำการแบบที่ไม่เคยเห็นมานานแล้ว

ธนาคารเครดิตอะกริโกลวิเคราะห์ว่า ภายใต้นโยบาย "เศรษฐกิจแรงดันสูง" ของรัฐบาลทาคาอิจิมีแนวโน้มที่จะขอให้บีโอเจคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป โดยอาจจะพยายามให้บีโอเจเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ออกไป เป็นภายในเดือน ม.ค.2569 จากเดิมที่คาดการณ์กันกันว่าการขึ้นดอกเบี้ยอาจเริ่มขึ้นในไตรมาส 4 ปีนี้ นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่ารัฐบาลใหม่จะเปลี่ยนทิศทางนโยบายอย่างสิ้นเชิง โดยจะมุ่งเน้นแนวทางใหม่ที่ต้องการขยายการลงทุนและความต้องการเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐและเอกชน 

อย่างไรก็ตาม "อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว" ของประเทศอาจปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากทาคาอิชิสนับสนุนนโยบายการคลังแบบขยายตัว หรือสนับสนุนการก่อหนี้เพิ่ม ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการกู้ยืมเพิ่มด้วยการออกพันธบัตร ขณะที่ตลาด "ปรับลด" การคาดการณ์ว่าบีโอเจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ลง 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีวันอังคารนี้ (7 ต.ค.) ได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 3.28% ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าระดับอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นนี้อาจดึงดูดผู้ซื้อได้บ้าง แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอาจไม่เพียงพอที่จะรองรับความต้องการทั้งหมด