มาครงเดินเดี่ยวริมแม่น้ำแซน สะท้อนฉากสุดท้ายผู้นำใกล้หมดอำนาจ

ทีวีฝรั่งเศสเผยภาพประธานาธิบดีมาครงเดินเดี่ยวริมแม่น้ำแซนสัมผัสอากาศเย็นยามเช้าของฤดูใบไม้ร่วง ไม่กี่ชั่วโมงหลังนายกรัฐมนตรีคนล่าสุดถูกบีบให้ลาออกเพราะตั้ง ครม.ไม่สำเร็จ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสสวมโอเวอร์โคตสีดำ เดินผ่านประตูเหล็กไปยังเขื่อนหินริมแม่น้ำแซนโดยมีบอดี้การ์ดยืนอยู่ห่างๆ ทั้งนำหน้า และตามหลัง
คลิปนี้ถูกถ่ายจากระยะไกลแล้วนำมาเผยแพร่ทางเฟรนช์ทีวี ชวนให้นึกถึงภาพของชาร์ลส เดอ โกลที่กำลังแสวงหาความสงบในทุ่งราบลมแรงของไอร์แลนด์หลังจากลาออกในช่วงปลายทศวรรษ 1960 นั่นคือ ภาพของผู้นำที่อยู่กับตัวเองหลังยุคสมัยทางการเมืองของตนกำลังจะสิ้นสุดลง
มาครงต้องเป็นประธานาธิบดีไปจนถึงปี 2027 แต่การลาออกของเซบาสเตียน เลอกอร์นู นายกรัฐมนตรีคนที่ 5 ของเขาในรอบสองปี ยิ่งทำให้อดีตขวัญใจการเมืองฝรั่งเศสผู้นี้มีโอกาสอยู่ไม่ครบเทอมมากขึ้น
ดูเหมือนมาครงตัดสินใจหลีกเลี่ยงชะตากรรมนี้ โดยเมื่อวันจันทร์ (6 ต.ค.68) เขาให้โอกาสเลอกอร์นูอีกสองวันไปเจรจานาทีสุดท้ายกับพรรคฝ่ายค้านพยายามหาทางออกให้ได้
การให้โอกาสสุดท้ายแก่เลอกอร์นูเป็นการส่งสัญญาณว่า มาครงไม่อยากได้ทางเลือกที่ตนเองมี นั่นคือ การเลือกตั้งใหม่ซึ่งอาจเป็นการยื่นอำนาจให้ฝ่ายขวาจัด หรือไม่ก็ลาออกอันเป็นหนทางที่เขาปฏิเสธมาโดยตลอด
เมื่อทางเลือกเหลือน้อยลง มาครงจึงโดดเดี่ยวมากขึ้นได้แต่มองพันธมิตรตีตัวออกห่างเพราะพวกเขาก็อยากชนะเลือกตั้งปี 2027 ขึ้นมาแทนที่มาครงเช่นเดียวกัน
โพลของElabe ทำให้ BFMTV เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ พบว่า
ชาวฝรั่งเศสเกือบครึ่งกล่าวโทษมาครงสำหรับวิกฤติครั้งนี้ ในจำนวนนี้ 51% เชื่อว่า หากเขาลาออกอาจผ่าทางตันได้
“ตอนนี้มาครงพบว่าตนเองกำลังถูกโดดเดี่ยว ไร้ทิศทางหรือการสนับสนุน เขาต้องเลือกสักทางไม่ว่าจะลาออกหรือยุบสภา” ฟิลิป บัลลาร์ด ส.ส.พรรคขวาจัด “เนชันแนลแรลลี” โพสต์แพลตฟอร์ม X
- ตัดสินใจพลาดยุบสภา 2024 ต้นตอวิกฤติ
นับตั้งแต่คาดการณ์ผิดยุบสภาเลือกตั้งใหม่ในปีที่ผ่านมา จนเกิดสภาแขวนระหว่างสามกลุ่มการเมืองอุดมการณ์ต่างๆ มาครงจึงพยายามหาทางออกผ่าน ครม.เสียงข้างน้อย
ด้วยความมุ่งมั่นรักษามรดกทางเศรษฐกิจจากการลดหย่อนภาษี และการปฏิรูปเงินบำนาญในช่วงเวลาที่นักลงทุนกังวลมากขึ้นทุกขณะเรื่องการขาดดุลงบประมาณมหาศาลของฝรั่งเศสมาครงได้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากพันธมิตรเฉพาะกิจของกลุ่มอนุรักษนิยมและกลุ่มสายกลาง
ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา รัฐบาลเหล่านี้พยายามผ่านมาตรการลดการขาดดุล นายกฯ ลาออกไปแล้วสองคนเพราะไม่สามารถแก้ไขการเงินสาธารณะได้
สำหรับเลอกอร์นู มาครงยังหวังว่าเขาจะดึงนักการเมืองสายอนุรักษนิยมกลับมาเจรจากันได้จึงให้เวลาเขาอีกสองวัน ถ้าทำไม่ได้ มาครงอาจตั้งนายกฯ เอียงซ้าย แต่พรรคสังคมนิยมยังยืนกรานให้เก็บภาษีความมั่งคั่ง และเลิกปฏิรูปบำนาญ จึงยากสำหรับมาครงที่จะขายไอเดียกับพรรคการเมืองอื่น
- แรงกดดันมาครงต่อเนื่อง
แม้ร้องขอให้เลอกอร์นูพยายามใหม่ แต่แรงกดดันต่อมาครงยังไม่ไปไหน มารีน เลอแปง ผู้นำพรรคขวาจัด “เนชันแนลแรลลี” (อาร์เอ็น) รีบเรียกร้องให้ยุบสภาจัดเลือกตั้งใหม่ ผลโพลชี้ว่าพรรคของเธอกำลังมีคะแนนนำ
“พรรคอาร์เอ็นได้ประโยชน์จากการที่สายกลางล่ม และฉวยคะแนนนิยมจากการประท้วง การยุบสภาเป็นโอกาสเดียวที่พรรคจะได้เป็นรัฐบาลในที่สุด” สจ๊วต เชา นักวิเคราะห์การเมืองกล่าวกับรอยเตอร์
ส่วนเสียงเรียกร้องให้มาครงลาออก ที่เดิมเคยอยู่ในวงจำกัดตอนนี้กำลังกลายเป็นกระแสหลักแล้ว
“เพื่อผลประโยชน์แห่งชาติของฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ต้องกำหนดวันลาออก เพื่อรักษาสถาบันต่างๆ เอาไว้และคลี่คลายสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นับตั้งแต่การยุบสภาไร้สาระ” เดวิด ลิสนาร์ด นายกเทศมนตรีเมืองคานส์ นักการเมืองสายอนุรักษนิยมผู้กำลังโดดเด่นทุกขณะ โพสต์โซเชียลมีเดีย
มาครงพูดมาตลอดว่าต้องการทำหน้าที่จนครบเทอมแต่เมื่อเผชิญกับตัวเลือกที่น่าพอใจเพียงไม่กี่อย่าง เขาอาจเลือกที่จะยุติตำแหน่งประธานาธิบดีด้วยท่าทีอันน่าทึ่ง เช่นเดียวกับเดอ โกลล์ ที่ก้าวลงจากตำแหน่งในปี 1969
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







