‘เหล่าบริษัทจีน’ แห่โยกฐานสู่ไทย Haier-Hisense เปิดโรงงานชลบุรี
‘บริษัทจีน’ เร่งขยายฐานผลิตสู่ ‘ไทย’ อย่างต่อเนื่อง ทั้งไฮเออร์และไฮเซนส์ต่างเทเงินสร้างโรงงานเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ในชลบุรี ขณะที่บริษัทอีวีอย่าง BYD และ Great Wall Motor ก็ปักหมุดผลิต EV ในไทยเช่นกัน สะท้อนบทบาทไทยในฐานะฐานอุตสาหกรรมใหม่ของอาเซียน
เว็บไซต์นิกเกอิ เอเชียรายงานว่าเหล่า “ผู้ผลิตจากจีน” กำลังขยายฐานการลงทุนมาใน “ประเทศไทย” เพื่อกระจายความเสี่ยงด้านการผลิตและการส่งออก ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐ โดยมี “สองแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่จากจีน” ที่เพิ่งเปิดหรือเริ่มสร้างโรงงานใหม่ในไทยเมื่อเดือนที่แล้ว
ที่จังหวัดชลบุรี ทางตะวันออกของกรุงเทพ ซึ่งเป็นที่ตั้งของท่าเรือสำคัญ “ไฮเออร์ กรุ๊ป” (Haier Group) ยักษ์ใหญ่ด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน ได้เปิดโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยเงินลงทุน 10,000 ล้านบาท โรงงานแห่งนี้จะมีกำลังการผลิตปีละ 3 ล้านเครื่อง และมีแผนจะขยายเป็น 6 ล้านเครื่องภายในปี 2027 โดยจะจ้างแรงงานมากกว่า 3,000 คน
ตามข้อมูลของบริษัท เครื่องปรับอากาศ จำนวน 500,000 เครื่องจะจำหน่ายในประเทศ ส่วนที่เหลือกว่า 90% ของกำลังการผลิตทั้งหมด จะถูกส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศทั่วโลก โจว หยุนเจี๋ย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไฮเออร์ กรุ๊ปกล่าวในพิธีเปิดเมื่อวันที่ 23 กันยายนว่า
“เราขอจับมือเดินหน้าร่วมกัน เพื่อสร้างต้นแบบความร่วมมือจีน–ไทยภายใต้โครงการ ‘หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง’ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วโลก ได้สัมผัสกับการผสานกันระหว่าง ‘ไมตรีแบบไทย’ กับ ‘เทคโนโลยีแบบจีน’ ”
โรงงานแห่งใหม่นี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยี “สมาร์ทแฟกทอรี” โดยติดตั้งหน้าจอ LCD ตลอดสายการผลิตเพื่อแสดงประสิทธิภาพการทำงาน และมีศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ สำหรับตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลจากทั่วทั้งโรงงานอีกด้วย
ในวันเดียวกันนั้น “ไฮเซนส์ กรุ๊ป” (Hisense Group) ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่จากจีน ได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างโรงงานผลิตตู้เย็นและเครื่องซักผ้าแห่งใหม่ในจังหวัดชลบุรีเช่นกัน โดยมีมูลค่าการลงทุนราว 4.7 พันล้านบาท
โรงงานระยะที่หนึ่งคาดว่า จะแล้วเสร็จภายในช่วงกลางปี 2026 และจะมีกำลังการผลิตปีละประมาณ 2.6 ล้านเครื่อง โดยบริษัทระบุว่า โรงงานแห่งนี้ถูกออกแบบให้เป็นฐานการผลิตครบวงจร ที่ผสานระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีขั้นสูงเข้าไว้ด้วยกัน
ในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีน อย่าง BYD, Great Wall Motor, GAC Aion และ SAIC Motor ได้เริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยตั้งแต่ปี 2024 ตามมาด้วย Changan Automobile ที่เริ่มสายการผลิตในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ส่วนในภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การผลิตแผงวงจรพิมพ์ (PCB) ก็เริ่มมีการขยายตัวอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน
ในช่วงเดือนมกราคมถึงมิถุนายนของปีนี้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้อนุมัติเงินลงทุนจากจีน (ไม่รวมฮ่องกง) รวมมูลค่า 115,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่การลงทุนจากฮ่องกงมีมูลค่า 145,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 360% เมื่อเทียบรายปี
หากมองในระยะยาว การลงทุนโดยตรงจากจีนในประเทศไทย (FDI) เพิ่มขึ้นมากกว่า 4 เท่า จาก 38,000 ล้านบาทในปี 2014 เป็น 174,000 ล้านบาทในปี 2024
อ้างอิง: nikkei