ลุ้นเสาร์นี้! ญี่ปุ่นได้นายกฯ 'หญิงคนแรก' หรือ 'ชายอายุน้อยสุด'

ลุ้นญี่ปุ่นได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่หลังการลงคะแนนเลือกหัวหน้าพรรควันเสาร์ (4 ต.ค.68) นี้ จะเป็น 'นายกฯ หญิงคนแรก' หรือ 'นายกฯ ชายอายุน้อยสุด'
ญี่ปุ่นมีโอกาสดีที่อาจจะได้นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก หรือผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในยุคสมัยใหม่ หลังลงมติเลือกหัวหน้าพรรครัฐบาลคนใหม่ของประเทศในวันเสาร์ (4 ต.ค.68) นี้
ตัวเก็งในการเลือกตั้งผู้นำพรรคเสรีประชาธิปไตยในประวัติศาสตร์ ได้แก่ ซานาเอะ ทาคาอิชิ นักการเมืองหญิงสายอนุรักษนิยม วัย 64 ปี และคู่แข่งสายกลางชินจิโร โคอิซูมิ วัย 44 ปี ผลสำรวจยังพบว่า โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีวัย 64 ปี ก็อาจเป็นตัวเก็งในครั้งนี้
สามคนนี้อยู่ใน 5 แคนดิเดตที่จะชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นแทนชิเงรุ อิชิบะ ที่กำลังลงจากตำแหน่งหลังเผชิญความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งระดับต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
รอบเตอร์ ระบุ ผู้นำคนต่อไปนั้นจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เนื่องจากพรรค LDP ครองเสียงมากที่สุดในสภา แต่ก็ไม่อาจพูดได้เต็มปาก เนื่องจากพรรคที่บริหารจัดการประเทศญี่ปุ่น มานานเกือบตลอดช่วงหลังสงครามโลกสูญเสียเสียงทั้งสองสภาภายใต้การนำของอิชิบะ
ลุ้นตัวเก็งจะเป็นใคร
ทาคาอิชิ ให้คำมั่นสัญญาว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการใช้จ่ายรัฐบาลเชิงรุกที่อาจทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศที่มีภาระหนี้สูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เธอยังได้พูดถึงความเป็นไปได้ในการทำข้อตกลงการลงทุนกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอีกครั้ง
ขณะที่โคอิซูมิ รัฐมนตรีเกษตร ลูกชายของอดีตนายกรัฐมนตรี จุนอิชิโร โคอิซูมิ และแคนดิเดตคนอื่นๆ กล่าวว่า พวกเขาจะลดภาษีเพื่อช่วยครัวเรือนรับมือกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่นโยบายอื่นจะยึดตามมาตรการควบคุมทางเศรษฐกิจของอิชิบะมากกว่า
ทีนา เบอร์เร็ตต์ ศาสตราจารย์รัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยโซเฟีย โตเกียว กล่าวว่าโคอิซูมิ และทาคาอิจินำเสนอแนวทางในการฟื้นฟูประเทศแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โคอิซูมิถูกมองว่าเป็นคนที่สามารถสร้างฉันทามติกับพรรคอื่นๆ ได้ ในขณะที่ทาคาอิจิจะเขย่า “โลกที่เต็มไปด้วยนักการเมืองเทาๆ”
หากได้รับเลือก โคอิซูมิ จะมีอายุมากกว่าฮิโรบูมิ อิโตะ เพียงไม่กี่เดือน เมื่อตอนที่ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของญี่ปุ่นในปี 2428 ภายใต้รัฐธรรมนูญก่อนสงคราม
ทั้งนี้ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์อาซาฮีเมื่อวันพุธ (1 ต.ค.68) ระบุว่า โคอิซูมิได้รับความนิยมจาก สส.พรรค LDP 295 คน รองลงมาเป็นฮายาชิ และทาคาอิชิ แต่ผลสำรวจของสถานีโทรทัศน์นิปปอน พบว่า ทาคาอิชิมีคะแนนขึ้นนำทั้งในบรรดาสมาชิกพรรคทั่วไป ซึ่งจะมีสิทธิลงคะแนนเสียงเท่ากันกับกลุ่ม สส. ในการเลือกตั้งรอบแรกที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์นี้
หากการเลือกตั้งเข้าสู่รอบสองความได้เปรียบอาจเปลี่ยนไป เนื่องจากคะแนนเสียงของสมาชิกพรรค LDP ระดับทั่วไปจะลดลงเหลือ 47 เสียง
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าใครได้รับเลือกในวันเสาร์ ล้วนจะต้องรับช่วงต่อพรรครัฐบาลที่กำลังเผชิญวิกฤติ และเศรษฐกิจที่ซบเซา และต้องเตรียมเป็นเจ้าภาพต้อนรับทรัมป์ในกรุงโตเกียว สิ้นเดือนต.ค. ด้วย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







