สภาพคล่องหด สำรองแบงก์สหรัฐหลุด 3 ล้านล้านดอลล์ กดดัน 'เฟด' หยุดลดงบดุล

สภาพคล่องหด สำรองแบงก์สหรัฐหลุด 3 ล้านล้านดอลล์  กดดัน 'เฟด' หยุดลดงบดุล

สภาพคล่องหด! ทุนสำรองธนาคารสหรัฐร่วงหลุด 3 ล้านล้านดอลล์ ต่ำสุดนับจาก ม.ค. หลังคลังเร่งออกพันธบัตร กดดัน 'เฟด' พิจารณายุติการลดงบดุล

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า “ทุนสำรอง” ในระบบธนาคารของสหรัฐร่วงลงต่ำกว่าระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เดือนม.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าสภาพคล่องในระบบการเงินกำลังหดตัว และอาจกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ต้องพิจารณายุติกระบวนการลดขนาดงบดุล (QT) เร็วกว่าที่คาด

วานนี้(2 ต.ค.) เฟดรายงานว่าทุนสำรองของธนาคารลดลงประมาณ 2.01 หมื่นล้านดอลลาร์ ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 ต.ค. เหลือเพียง 2.98 ล้านล้านดอลลาร์ 

สภาพคล่องหด สำรองแบงก์สหรัฐหลุด 3 ล้านล้านดอลล์  กดดัน 'เฟด' หยุดลดงบดุล

 2 ปัจจัยกดดัน

การลดลงของทุนสำรองในครั้งนี้เป็นผลมาจากปัจจัยหลายด้านที่เกิดขึ้นพร้อมกัน

  • คลังออกตราสารหนี้

หลังจากการเพิ่มเพดานหนี้ในเดือนก.ค.กระทรวงการคลังได้เร่งออกพันธบัตรเพื่อระดมเงินสด ซึ่งเป็นการ “ดูดสภาพคล่อง” ออกจากระบบการเงิน

  • การลดลงของ RRP

อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทุนสำรองธนาคารลดลงอย่างรวดเร็วคือ การหดตัวของแหล่งสภาพคล่องอื่นๆ ในระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วงเงินสินเชื่อซื้อคืนพันธบัตรแบบย้อนกลับข้ามคืน (Overnight Reverse Repo - RRP) ของเฟดซึ่งเป็นเครื่องมือที่สถาบันการเงินใช้พักเงินสดส่วนเกิน ได้ถูกใช้ไปจนใกล้หมดแล้ว

เมื่อแหล่งเงินสดสำรองนี้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ก็ส่งผลให้ภาระการลดลงไปตกอยู่กับ ทุนสำรองเงินสดของธนาคารพาณิชย์ ที่ฝากไว้กับเฟดโดยตรง โดยข้อมูลยังชี้ให้เห็นว่าธนาคารต่างชาติที่ดำเนินงานในสหรัฐฯ ได้ลดการถือครองเงินสดสำรองนี้ในอัตราที่รวดเร็ว ยิ่งตอกย้ำถึงความตึงตัวของสภาพคล่องที่กำลังแผ่ขยายไปทั่วทั้งระบบการเงิน

กดดันเฟดยุติการทำ QT  

การที่ทุนสำรองธนาคารลดลงต่ำกว่าระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์ ได้สร้างแรงกดดันต่อ Fed อย่างชัดเจน เนื่องจากทุนสำรองที่ลดลงมากเกินไป อาจทำให้ สภาพคล่องตึงตัวรุนแรงขึ้น และนำไปสู่ความผันผวนในตลาดการเงินได้

แม้ว่า “เจอโรม พาวเวล” ประธานเฟดจะกล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่าดุลบัญชีสำรองยังอยู่ในระดับสูง แต่การลดลงอย่างรวดเร็วได้ส่งสัญญาณไปยังตลาดว่า เฟดอาจใกล้ถึงจุดที่ปริมาณเงินสำรอง "เพียงพอ" แล้ว ซึ่งเป็นระดับที่จะต้องยุติการทำ QT

อย่างไรก็ดี ผู้กำหนดนโยบายของเฟดยังมีความเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับระดับต่ำสุดที่เหมาะสม โดยผู้ว่าการคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ เคยประเมินไว้ที่ประมาณ 2.7 ล้านล้านดอลลาร์

 มิเชลล์ โบว์แมน รองประธานฝ่ายกำกับดูแลของเฟดให้ความเห็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า “เฟดควรพยายามรักษางบดุลให้มีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยคงเงินสำรองไว้ในระดับที่ "ใกล้เคียงกับระดับขาดแคลน" และมากกว่าระดับ "เพียงพอ" เพื่อให้มีช่องว่างในการดำเนินการนโยบาย”

การที่ทุนสำรองธนาคารลดลงอย่างต่อเนื่องนี้จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ตลาดการเงินจับตา เพื่อประเมินว่าเฟดจะสามารถดำเนินมาตรการ QT ไปได้อีกนานแค่ไหน ก่อนที่ระบบการเงินจะเจอข้อจำกัดด้านสภาพคล่องที่ตึงตัวเกินไป

อ้างอิง Bloomberg