'ดอลลาร์' อ่อนค่า ฉุดสัดส่วนทุนสำรองโลกวูบ ต่ำสุดรอบ 30 ปี

'ดอลลาร์' อ่อนค่า ฉุดสัดส่วนทุนสำรองโลกวูบ ต่ำสุดรอบ 30 ปี

IMF เผยรายงาน 'ดอลลาร์' อ่อนค่าจาก 3 ปัจจัยกดดัน ฉุดสัดส่วนในทุนสำรองโลกวูบ ต่ำสุดรอบ 30 ปี เหลือ 56.3% ดันยูโร-ปอนด์พุ่ง

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) รายงานเมื่อวานนี้(1 ต.ค.)​ ว่าสัดส่วนเงิน “ดอลลาร์” ในทุนสำรองระหว่างประเทศของธนาคารกลางทั่วโลกลดลง 1.5% จากไตรมาสแรก แตะระดับ 56.3% ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้  ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1995 หรือในรอบเกือบ 30 ปี

'ดอลลาร์' อ่อนค่า ฉุดสัดส่วนทุนสำรองโลกวูบ ต่ำสุดรอบ 30 ปี

อย่างไรก็ตาม IMF ชี้แจงว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ ไม่ได้เป็นผลจากการที่ธนาคารกลางพากันลดการถือครองเงินดอลลาร์ แต่เป็นผลมาจากการอ่อนค่าลงอย่างรุนแรงของเงินดอลลาร์เองในช่วงที่ผ่านมา

‘ดอลลาร์ค่า’ ฉุดสัดส่วนเงินสำรองฮวบ

นักวิจัยของ IMF นำโดย Glen Kwende, Erin Nephew และ Carlos Sanchez-Munoz ระบุไว้ในรายงาน โดยประเมินว่าผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นตัวผลักดันเกือบทั้งหมด ที่ทำให้สัดส่วนเงินดอลลาร์ในทุนสำรองลดลง โดยคาดว่ามูลค่าที่ลดลงนี้เกิดจากการเคลื่อนไหวของค่าเงินประมาณ 92%

'ดอลลาร์' อ่อนค่า ฉุดสัดส่วนทุนสำรองโลกวูบ ต่ำสุดรอบ 30 ปี

ธนาคารกลางต้องรายงานมูลค่าเงินสำรองของตนต่อ IMF เป็นสกุลเงินดอลลาร์ ดังนั้นเมื่อเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ มูลค่าของเงินสำรองสกุลเงินอื่น ๆ เช่น ยูโร ปอนด์ที่แปลงกลับเป็นดอลลาร์จึงเพิ่มขึ้น ทำให้สัดส่วนของเงินดอลลาร์ดูเหมือนลดลงตามไปด้วย

ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 9% เมื่อเทียบกับเงินยูโร, อ่อนค่าลง 11% เมื่อเทียบกับเงินฟรังก์สวิส และอ่อนค่าลง 6% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์

3 ปัจจัยที่กดดันเงินดอลลาร์

การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ในช่วงต้นปีเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยกดดัน 

  • นโยบายการขึ้นภาษีศุลกากรของประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” 
  • การที่ทรัมป์กดดันธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง
  • ความกังวลเรื่องการ “ขาดดุล” จากร่างกฎหมายภาษี “One Big Beautiful Bill Act” ที่ทรัมป์ลงนามเมื่อวันที่ 4 ก.ค.
  • ‘ยูโร-ปอนด์’ รับอานิสงส์

ในทางตรงกันข้าม การแข็งค่าของสกุลเงินบางสกุลได้ช่วยชดเชยการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าธนาคารกลางจะไม่ได้เพิ่มการถือครองสกุลเงินนั้น ๆ ก็ตาม

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ “เงินยูโร” โดยแม้ว่าธนาคารกลางจะลดการถือครองเงินยูโรโดยรวมลงในไตรมาสที่ 2 แต่การที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้น ทำให้สัดส่วนการถือครองเงินยูโรในทุนสำรองโลกรวมกลับเพิ่มขึ้นเป็น 21% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2021 เช่นเดียวกับเงินปอนด์ 

'ดอลลาร์' อ่อนค่า ฉุดสัดส่วนทุนสำรองโลกวูบ ต่ำสุดรอบ 30 ปี

อย่างไรก็ดี ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่มีการซื้อขายกว่า 9.6 ล้านล้านดอลลาร์ต่อวัน นั้น ธนาคารกลางอาจไม่ได้รวดเร็วเท่ากองทุนป้องกันความเสี่ยง หรือผู้จัดการสินทรัพย์รายอื่น ๆ แต่เนื่องจากธนาคารกลางถือครองเงินสำรองต่างประเทศจำนวนมหาศาล โดยมีมูลค่ารวมสูงถึง 12.03 ล้านล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2 ดังนั้นการตัดสินใจของธนาคารกลางในการจัดสรรเงินสำรองจึงสามารถ ส่งผลกระทบต่อราคาของสกุลเงินต่าง ๆ ในตลาดโลกได้