ไฟเซอร์ยอมลดราคายา Medicaid แลก ‘ผ่อนปรนภาษี’ นาน 3 ปี

ไฟเซอร์ยอมลดราคายา Medicaid แลก ‘ผ่อนปรนภาษี’ นาน 3 ปี

‘ไฟเซอร์’ ดีลกับปธน.ทรัมป์สำเร็จ ยอมลดราคายาในโครงการ Medicaid ลงมาใกล้เคียงประเทศพัฒนาแล้ว แลกกับการผ่อนปรนภาษีศุลกากร 3 ปี พร้อมอัดเงินลงทุน 2.2 ล้านล้านบาทในสหรัฐ ดันหุ้นกลุ่มบริษัทยาพุ่ง นักลงทุนโล่งใจรอดแรงกดดันจากภาษี

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า “ไฟเซอร์” (Pfizer) บริษัทผลิตยาและวัคซีนชื่อดังของสหรัฐ และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้บรรลุข้อตกลงกันแล้ว ซึ่งบริษัทยายักษ์ใหญ่ของสหรัฐจะยอม “ลดราคายา” ในโครงการประกันสุขภาพ Medicaid ลงมาอยู่ในระดับเดียวกับที่ขายในประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ โดยแลกกับ “การผ่อนปรนภาษีศุลกากร” จากเดิม 100%

หลังรายงานข่าวออกมา หุ้นไฟเซอร์ พุ่งขึ้นกว่า 6% ในวันอังคาร ขณะที่ข่าวดังกล่าวยังหนุนราคาหุ้นยาอย่าง Eli Lilly, Merck, Amgen, AbbVie และ GSK ให้ปรับตัวขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากนักลงทุนโล่งใจที่บริษัทเหล่านี้จะ “รอดพ้นจากผลกระทบรุนแรงของภาษีศุลกากร” ขณะที่หุ้นยุโรปก็เปิดตลาดวันพุธในแดนบวกเช่นกัน

ปัจจุบันผู้ป่วยในสหรัฐต้องจ่ายค่ายาที่แพงที่สุดในโลก โดยเฉลี่ยสูงกว่าประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ เกือบสามเท่า และทรัมป์ได้กดดันผู้ผลิตยาให้ลดราคาลงมาใกล้เคียงกับที่ผู้ป่วยในประเทศอื่น ๆ จ่าย

ทั้งนี้ ไฟเซอร์ จะเข้าร่วมในโครงการเว็บไซต์ขายยาตรงถึงผู้บริโภคของทำเนียบขาว ซึ่งเปิดให้ชาวอเมริกันซื้อยาโดยตรง ภายใต้ชื่อ “TrumpRx” ที่มีกำหนดเปิดตัวในปี 2026

“สหรัฐจะไม่อุดหนุนค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขให้กับประเทศอื่น ๆ อีกต่อไป” ทรัมป์กล่าวระหว่างงานแถลงที่ห้องรูปไข่ โดยมีอัลเบิร์ต บูร์ลา ซีอีโอของไฟเซอร์, โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีสาธารณสุข และบุคคลอื่น ๆ ร่วมด้วย

นอกจากนี้ ไฟเซอร์ประกาศว่าจะลงทุน 70,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.2 ล้านล้านบาทในการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการผลิตภายในสหรัฐและได้รับระยะเวลา “ผ่อนผัน 3 ปี” โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะ “ไม่ถูกเก็บภาษีนำเข้า” 

ตามข้อมูลในเว็บไซต์ ไฟเซอร์มีโรงงานผลิตประมาณ 9 แห่งในสหรัฐ และอีก 28 แห่งกระจายอยู่ทั่วโลก ตั้งแต่ไอร์แลนด์ไปจนถึงญี่ปุ่น

สำหรับคู่แข่งของไฟเซอร์อย่าง แอสตร้าเซนเนก้า และ Eli Lilly ก็ได้ให้คำมั่นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเช่นกันว่า จะขยายกำลังการผลิตในสหรัฐ หลังจากทรัมป์ขู่จะเก็บภาษี

 


อ้างอิง: reuters