‘กัมพูชา’ อภิปรายใน UNGA80 อ้าง ‘เพื่อนบ้าน’ คุกคาม ขอยูเอ็นช่วยลดขัดแย้ง

ปรัก สุคน รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาอภิปรายในงานประชุม UNGA80 อ้าง “เพื่อนบ้าน” คุกคาม ขอการสนับสนุนต่อเนื่องจากยูเอ็นและอาเซียน ช่วยลดขัดแย้ง
ปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา อภิปรายในงานประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 80 เมื่อวันเสาร์ ณ นครนิวยอร์ก (27 ก.ย.) โดยกล่าวว่ากัมพูชากำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากความขัดแย้งชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นประเทศไทยโดยตรง
รัฐมนตรีปรักได้กล่าวขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐที่ช่วยไกล่เกลี่ยจนนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ยุติการต่อสู้ที่ทำให้มีคนเสียชีวิต บาดเจ็บ ความเสียหาย และทำให้ประชาชนหลายแสนคนต้องพลัดถิ่น
รองนายกฯ กล่าวต่อว่า ข้อตกลงหยุดยิงยังมีความเปราะบาง แม้ทั้งสองประเทศแสดงความมุ่งมั่นปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงอย่างเคร่งครัด แต่ความจริงใจจะน่าเชื่อถือได้ก็ต่อเมื่อได้รับการปฏิบัติอย่างสอดคล้องจากทั้งถ้อยคำและการลงมือปฏิบัติจริงในพื้นที่
“น่าเศร้าที่ความเคลื่อนไหวฝ่ายเดียวอย่างต่อเนื่องจากเพื่อนบ้านของเรา การใช้กำลังทหารแทนกลไกที่ตกลงกัน การใช้แผนที่ฝ่ายเดียวแทนแผนที่ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลที่จัดทำตามสนธิสัญญาที่ผูกพันทั้งสองประเทศ รวมถึงการกระทำอื่น ๆ อีกมากมาย ล้วนบ่อนทำลายความพยายามสร้างความเชื่อมั่นและสันติภาพ" รัฐมนตรีกล่าว
ปรักกล่าวอีกว่า สิ่งที่น่ากังวลอย่างยิ่งคือการขับไล่พลเรือนกัมพูชาและการขู่ใช้กฎหมายในประเทศกับประชาชน รวมถึงการเตรียมขับไล่คนอีกหลายร้อยคนออกจากพื้นที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่มาหลายสิบปี
“วิธีการควบคุมดินแดนในพื้นที่ชายแดนที่ยังไม่ได้ปักปันนี้ แสดงถึงการไม่เคารพ ไม่เพียงแต่เงื่อนไขของการหยุดยิงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงข้อตกลงร่วมกันในการแก้ไขปัญหาชายแดนด้วย”
รมว.กต. กัมพูชาชี้แจงว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชาถูกละเมิด รวมถึงสิทธิและศักดิ์ศรีของชาวกัมพูชาจำนวนมาก
ปรักย้ำกัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดและโปร่งใส แสดงความสุจริตใจในทุกขั้นตอนของการดำเนินการ และอดกลั้นอย่างถึงที่สุด แม้ในสถานการณ์ที่มีเหตุยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเอ่ยถึงสถานการณ์ในช่วงเช้าวันเสาร์ว่าเกิดการโจมตีโดยปราศจากการยั่วยุใกล้พื้นที่อ่อนไหว หลังจากมีการกล่าวหาว่ากองทัพกัมพูชาเป็นฝ่ายยิงก่อน รัฐมนตรีชี้แจงว่าฝ่ายกัมพูชาไม่ได้ทำเช่นนั้น และได้ละเว้นการตอบโต้ใด ๆ เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นต่อสันติภาพ
รมว.ปรัก เรียกร้องให้มีการเจรจาและการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีในทุกประเด็นที่ค้างคา ขอให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ให้ความเคารพต่อข้อตกลงทวิภาคี และปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงกฎบัตรของสหประชาชาติและอาเซียน ทั้งยังขอการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากประธานอาเซียนและประเทศสมาชิก เลขาธิการสหประชาชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้นำทั่วโลก ช่วยลดความตึงเครียด ส่งเสริมการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี และป้องกันโศกนาฏกรรมที่จะเกิดขึ้นอีก
“กัมพูชาเป็นประเทศเล็กที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจและยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน เราไม่เป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยของประเทศใด เราจะปกป้องเอกราช อธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของเราเสมอ และการใช้กำลังจะเป็นทางเลือกสุดท้าย กัมพูชาจะเดินหน้าทุกความพยายามเพื่อฟื้นความไว้วางใจและสภาพปกติ ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อนบ้าน และเปลี่ยนพื้นที่ชายแดนให้เป็นเขตสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” ปรักกล่าวทิ้งท้ายประเด็นขัดแย้งชายแดน ก่อนกล่าวปิดจบการอภิปราย







