จับตา ‘สีหศักดิ์’ ประชุม UNGA80 เตรียมหารือทวิภาคี ‘ญี่ปุ่น-รัสเซีย-มาเลเซีย’
จับตา สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศร่วมประชุม UNGA80 และเตรียมหารือทวิภาคี ‘ญี่ปุ่น-รัสเซีย-มาเลเซีย’ ในวันศุกร์ที่ 26 ก.ย. ตามเวลาสหรัฐ
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงข่าวภารกิจสำคัญของไทยในการประชุมสมัชชาแห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 80 (UNGA80) จากนครนิวยอร์ก สหรัฐ เมื่อวันที่ 25 ก.ย. เพื่อนำเสนอและสรุปผลการหารือ และการเข้าร่วมการประชุมและกิจกรรมคู่ขนานสำคัญๆ ของคณะผู้แทนไทย
ตามที่อธิบดีแถลงไปแล้วเมื่อวันอังคาร (23 ก.ย.) ที่ผ่านมา คณะผู้แทนไทยที่เดินทางมานครนิวยอร์กแล้วจำนวนหนึ่ง ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุขด้วย
ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ ประกอบด้วยอธิบดีและรองอธิบดีของกรมที่เกี่ยวข้องต่างๆ ที่ได้เริ่มเข้าร่วมการประชุมตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. แล้ว และได้ร่วมหารือกับผู้แทนประเทศอื่นๆ เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือ ทั้งในเรื่องการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ หรือการรับมือกับเศรษฐกิจโลกผ่านกลไก และเครื่องมือความร่วมมือระหว่างประเทศใหม่ๆ หรือประเด็นการพัฒนาที่ยั่งยืน และความมั่นคงของมนุษย์
ในส่วนของหัวหน้าคณะผู้แทนไทยนั้น ในวันศุกร์ที่ 26 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่น นายสีหศักดิ์ พวงเกตแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเดินทางถึงนครนิวยอร์ก โดยมีภารกิจสำคัญในสองเรื่องหลักๆ ดังนี้
ประการแรก ไทยต้องการกลับสู่จอเรดาร์โลก และแสดงวิสัยทัศน์และท่าทีต่อประชาคมโลกที่ยึดมั่นในหลักการสากลต่าง ๆ ทั้งในเรื่องที่ไกลตัว เช่น ยูเครน และตะวันออกกลาง และในเรื่องที่ใกล้ตัว เช่น เมียนมา และการดำเนินการของไทยต่อสถานการณ์ตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ซึ่งวิสัยทัศน์และท่าทีของไทยจะปรากฎในถ้อยแถลงที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทยจะกล่าวต่อสมัชชาสหประชาชาติในวันที่ 27 ก.ย. นี้
ประการที่สอง รัฐมนตรีมีนัดหมายพบหารือกับบุคคลสำคัญต่าง ๆ เช่น เลขาธิการสหประชาชาติ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น (ในฐานะประธานการประชุมรัฐภาคี Ottawa Convention ซึ่งในขณะนี้ไทยกำลังผลักดันในเรื่องของการเก็บกู้ทุ่นระเบิด) และ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย (ในฐานะประธาน UNSC เดือน ต.ค. 2568) รวมถึง รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนในปีนี้ และบุคคลอื่นๆ เช่น ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติว่าด้วยเมียนมา และข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนซึ่งการนัดหมายเหล่านี้ จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 ก.ย. นี้
โฆษกกระทรวงต่างประเทศย้ำ สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการแสดงวิสัยทัศน์และท่าทีไทยในเวทีระหว่างประเทศก็คือการใช้โอกาสการเยือนสหรัฐในครั้งนี้ เพื่อชี้แจงถึงโอกาสการลงทุน และขยายความร่วมมือทางการค้ากับสหรัฐ โดยการเข้าร่วมงานเลี้ยงพบปะกับ สภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน และหอการค้าสหรัฐในวันที่ 26 ก.ย.