'อีวีจีน' ใน 'ยุโรป' กำลังมา ยอดขาย BYD แซง Tesla 2 เดือนติด

'อีวีจีน' ใน 'ยุโรป' กำลังมา ยอดขาย BYD แซง Tesla 2 เดือนติด

ยอดขายอีวีจีน BYD ในยุโรป พุ่งแซงหน้าอีวีอเมริกา Tesla ติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง ครั้งนี้สูงกว่าปีก่อน "สามเท่า" ทะยานกว่า 200%

รอยเตอร์สรายงานอ้างข้อมูลจากกลุ่มล็อบบี้ยิสต์ยานยนต์ยุโรป ACEA ว่า บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน "บีวายดี" (BYD) มียอดขายรถยนต์ใหม่ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) เดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นมากกว่า "3 เท่า" เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว และยังสามารถแซงหน้าคู่แข่ง "เทสลา" (Tesla) ได้เป็นเดือนที่สองติดต่อกันแล้ว

ส่วนยอดขายรถยนต์แบรนด์ "สเตลแลนทิส" (Stellantis) กลับมาเติบโตในยุโรปได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี เนื่องจากตลาดในภาพรวมขยายตัว โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) 

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมรถยนต์ที่ซบเซาของยุโรปกำลังเผชิญความท้าทายต่างๆ มากมาย ทั้งภาษีนำเข้าจากสหรัฐ การแข่งขันจากจีน และการปฏิบัติตามกฎระเบียบภายในประเทศที่เคร่งครัด

บรรดาบริษัทรถยนต์ได้เร่งยอดขายรถยนต์ PHEV เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานการปล่อยมลพิษ โดยผลิตรถยนต์ที่ราคาไม่แพงและทำกำไรได้มากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าล้วน นอกจากนี้ "แบรนด์จีน" ยังใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อลดผลกระทบจากภาษีศุลกากรของอียูที่มุ่งเป้ารถไฟฟ้าผลิตในจีน และเพื่อเอาชนะใจผู้บริโภคชาวยุโรปที่ยังไม่เชื่อมั่นในจีน

ข้อมูลจาก ACEA ระบุว่า ยอดขายในกลุ่มอียู, สหราชอาณาจักร และสมาคมการค้าเสรียุโรป 4 ประเทศ (ECEA) เพิ่มขึ้น 4.7% อยู่ที่ราว 8 แสนคัน ในเดือนสิงหาคม

ยอดจดทะเบียนรถยนต์ Volkswagen และ Renault เพิ่มขึ้น 4.8% และ 7.8% ตามลำดับเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ Stellantis เพิ่มขึ้น 2.2% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2567

ส่วนยอดขายของ Tesla ในอียูลดลง 36.6% ทำให้ส่วนแบ่งตลาดลดลงจาก 2% ในปีที่แล้ว เหลือเพียง 1.2% สวนทางกับยอดขายของ BYD ที่เพิ่มขึ้นถึง 201.3% เมื่อเทียบเดือนเดียวกันของปีก่อน ทำให้ส่วนแบ่งตลาดแซงขึ้นเป็น 1.3% 

ส่วนยอดขายของบริษัทรถยนต์จีนรายอื่นๆ เช่น SAIC Motor ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ MG พุ่งขึ้น 59.4% ทำให้ส่วนแบ่งตลาดรวมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 1.9% และกลายเป็นรถยนต์ขายดีอันดับที่ 10 ของอียูในปีนี้

สำหรับยอดขายรถยนต์อีวีโดยรวมในอียูเพิ่มขึ้น 5.3% โดยยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าแบบ แบตเตอรี่ล้วน, ไฮบริด และปลั๊กอินไฮบริด เพิ่มขึ้น 30.2%, 54.5% และ 14.1% ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วน 62.2% ของยอดจดทะเบียนรถยนต์ทั้งหมดในอียู เพิ่มขึ้นจาก 52.8% ในเดือนส.ค. 2567