IPO เวียดนามคึกคัก ดัชนีพุ่ง 29% แต่เงินทุนต่างชาติยัง ‘ไหลออก’ 1 แสนล้านบาทปีนี้
แม้ ‘ดัชนีหุ้นเวียดนาม’ ทะยาน 29% และมี IPO ยักษ์ดึงดูดความสนใจ แต่เงินทุนต่างชาติยังไหลออกต่อเนื่องปีนี้ถึง 1 แสนล้านบาท ลดสัดส่วนถือครองจากเกือบ 19% เหลือเพียง 15.5%
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า แม้ตลาด IPO ของเวียดนามร้อนแรงขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้น การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ และการปล่อยสินเชื่อจำนวนมาก แต่ก็ยัง “ไม่สามารถดึงดูดความสนใจใหม่ๆ” จากนักลงทุนต่างชาติได้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทหลักทรัพย์ Techcom Securities ซึ่งเป็นบริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์เอกชน Techcombank สามารถระดมทุนได้ 410 ล้านดอลลาร์ ในการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนครั้งแรก ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทมีมูลค่ารวมประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์ และถือเป็น “หนึ่งในการทำ IPO ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด” ของเวียดนามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
มูลค่าการระดมทุนดังกล่าว คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของมูลค่ารวมของการเสนอขายหุ้น IPO ทั้ง 36 รายการในปีนี้ของมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาด IPO ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ทั้งในแง่มูลค่า และจำนวนดีล ตามข้อมูลจาก LSEG Workspace
กองทุนไพรเวทอิควิตี้ที่เน้นลงทุนในเวียดนามอย่าง Dragon Capital คาดการณ์ตั้งแต่ต้นปีว่า จะมีบริษัท 13 แห่ง รวมถึง Techcom Securities เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเวียดนาม ภายในปี 2028 โดยบริษัทเหล่านี้คาดว่าจะมีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 47,500 ล้านดอลลาร์ หรือราว 14% ของมูลค่าตลาดปัจจุบันของเวียดนาม
เหงียน เท มินห์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของบริษัทหลักทรัพย์ Yuanta Securities Vietnam กล่าวว่า การปรับตัวขึ้นของราคาหุ้น และกฎระเบียบใหม่ที่ประกาศใช้ในเดือนนี้เพื่อย่นระยะเวลาการเข้าจดทะเบียน กำลังช่วยกระตุ้นความตื่นตัวของตลาด
นับตั้งแต่ต้นปีนี้ “ดัชนีหุ้นเวียดนาม” พุ่งขึ้นแล้ว 29% กลายเป็นตลาดหุ้นที่ “ทำผลงานได้ดีที่สุด” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามข้อมูลของ LSEG
Vinpearl ธุรกิจรีสอร์ตในเครือ Vingroup สามารถระดมทุนได้ราว 190 ล้านดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม นับเป็นการกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นอีกครั้งหลังจากถูกถอนออกไปเป็นเวลากว่าทศวรรษ
ทั้งนี้ ความร้อนแรงของตลาดได้รับแรงหนุนบางส่วนจากการปล่อยสินเชื่อจำนวนมาก รวมถึงสินเชื่อมาร์จิน ซึ่งสร้างความกังวลว่าอาจก่อให้เกิดฟองสบู่ราคาสินทรัพย์ ขณะที่อัตราส่วนสินเชื่อต่อจีดีพีของเวียดนาม “สูงกว่า” ค่ามัธยฐานของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ และรายได้ปานกลางถึงกว่า 3 เท่า
ด้านธนาคารโลกประเมินว่า อาจมีเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติสุทธิทั้งแบบ Passive และ Active ไหลเข้ามาราว 5 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างชาติได้ลดการถือครองหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นครโฮจิมินห์ ลงไปประมาณ 90 ล้านล้านดอง (ราว 1 แสนล้านบาท) ในปีนี้ ทำให้สัดส่วนการถือครองของต่างชาติลดลงมาอยู่ที่ราว 15.5% ในเดือนนี้ จาก 17% ในปี 2024 และเกือบ 19% ในช่วงสิ้นปี 2023
“นักลงทุนต่างชาติกำลังขายหุ้น เนื่องจากกังวลเรื่องความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และเพื่อทำกำไรหลังจากดัชนีเวียดนามปรับตัวขึ้นแรง แต่สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่า พวกเขากำลังถอนการลงทุนออกจากเวียดนามทั้งหมด” หว่าง ฮวี นักกลยุทธ์ด้านหุ้นแห่งบริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ เวียดนาม กล่าว
อ้างอิง: reuters
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์