จีนจะเป็นตู้เซฟทองคำโลก รับฝากทองสำรองแบงก์ชาติ อาเซียนสนใจแล้วหนึ่ง

สื่อนอกเผย 'แบงก์ชาติจีน' ใช้ตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้เป็นฐานดึงดูดแบงก์ชาติประเทศพันธมิตรทั่วโลกให้เข้ามาซื้อ และฝากทองคำสำรองไว้ที่นี่ เบื้องต้นมีประเทศใน 'อาเซียน' สนใจแล้วอย่างน้อยหนึ่งราย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้ดูแลสำรองทองคำของรัฐบาลต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมสถานะของตนในตลาดทองคำแท่งโลก โดยใช้ตลาดซื้อขายทองคำเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Gold Exchange) ดึงดูด "ธนาคารกลางจากประเทศพันธมิตร" ให้เข้ามาซื้อและเก็บรักษาทองคำแท่งไว้ที่จีน
ความพยายามนี้เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และได้รับความสนใจจากประเทศใน "เอเชียตะวันออกเฉียงใต้" อย่างน้อยหนึ่งประเทศ
บลูมเบิร์ก ระบุว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมบทบาทของจีนในระบบการเงินโลก รวมถึงเป้าหมายในการสร้าง "ระบบโลกที่พึ่งพาดอลลาร์ และศูนย์กลางเศรษฐกิจตะวันตก เช่น สหรัฐ สหราชอาณาจักร และสวิตเซอร์แลนด์ น้อยลง" ปัจจุบันธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ได้ซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น และสร้างโอกาสให้ PBOC เสนอทางเลือกในการเป็นที่พักเก็บรักษาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำให้
อย่างไรก็ตาม ทาง PBOC และตลาดค้าทองเซี่ยงไฮ้ ไม่ได้ตอบรับการขอความเห็นต่อรายงานข่าวนี้แต่อย่างใด
ทั้งนี้ แรงซื้อทองคำจากธนาคารกลางทั่วโลกนับเป็นหนึ่งในเสาหลักสำคัญที่ทำให้ราคาทองพุ่งสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ และ PBOC เองก็กำลังเข้าซื้อทองคำสำรองเพิ่มขึ้นนานถึง 10 เดือนติดต่อกันแล้ว
เมื่อคืนที่ผ่านมา (23 ก.ย.68) ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot gold) ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 1.2% ขึ้นไปทุบระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,790.82 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะลดลงมาอยู่ที่ 3,765.29 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลาประมาณ 11.03 น. วันนี้ตามเวลาในไทย
ส่วนสัญญาทองคำตลาด COMEX สหรัฐ งวดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 40.6 ดอลลาร์ หรือ 1.08% ปิดที่ 3,815.7 ดอลลาร์/ออนซ์
จีนจะเป็นตู้เซฟทองคำโลกอย่างไร
“ตลาดอาจคาดการณ์ว่าการที่จีนเสนอตัวเป็นเจ้าภาพสำรองทองคำต่างประเทศนั้น ส่งสัญญาณถึงแรงผลักดันระยะยาวในการยกระดับบทบาทของจีนในระบบการเงินโลก” วาเอล มาคาเร็ม นักกลยุทธ์ตลาดการเงินของ Exness กล่าว “นักลงทุนอาจตีความว่านี่เป็นแรงผลักดันการลดใช้เงินดอลลาร์ ซึ่งอาจช่วยหนุนทองคำได้”
ทองคำสำรองที่รับฝากจะถูกเก็บไว้ในคลังภายใต้การดูแลของคณะกรรมการระหว่างประเทศของตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้ (SGE) ซึ่งคณะกรรมการนี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ PBOC โดยได้รับการก่อตั้งขึ้นในปี 2557 เพื่อเป็นช่องทางหลักในการซื้อขายทองคำระหว่างนักลงทุนต่างชาติกับคู่ค้าในจีน
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า ทองคำแท่งที่นำมาเก็บรักษาที่นี่จะเป็นทองคำสำรองในคำสั่งซื้อล็อตใหม่ ไม่ใช่การย้ายทองคำสำรองเดิมจากที่ต่างๆ
ที่ผ่านมา จีนได้ดำเนินการหลายอย่างเพื่อเปิดกว้างตลาดค้าทองเซี่ยงไฮ้มากขึ้น เช่น การเปิดตัวห้องนิรภัยและสัญญาซื้อขายนอกชายฝั่งแห่งแรกในฮ่องกงในปีนี้ ซึ่งเป็นการดำเนินการเพื่อเพิ่มปริมาณธุรกรรมในสกุลเงินหยวน นอกจากนี้ PBOC ยังได้ผ่อนคลายข้อจำกัดการนำเข้าทองคำเมื่อเร็วๆ นี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้จะถือเป็นบทบาทอีกก้าวสำคัญของปักกิ่ง แต่จีนก็ยังห่างไกลกับการจะขึ้นเป็นศูนย์กลางการจัดเก็บทองคำสำรองของโลกเมื่อเทียบกับ "สหรัฐ และสหราชอาณาจักร"
โดยคลังของธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) นั้นมีทองคำสำรองจากทั่วโลกเก็บไว้ที่นี่มากกว่า 5,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าเกือบ 6 แสนล้านดอลลาร์ และตอกย้ำบทบาทของลอนดอนในฐานะตลาดซื้อขายทองคำระดับโลกที่ครอบคลุมบริการรับฝากทรัพย์สิน ถือเป็นหัวใจสำคัญของศูนย์กลางทองคำ และช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและดึงดูดการซื้อขายมากขึ้น
สำหรับลูกค้าเป้าหมายของจีนนั้น คลังเก็บทองคำสำรองของจีนอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการเพิ่มทุนสำรองและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงการถูกตัดขาดจากตลาดการเงินโลก โดยการซื้อทองคำของธนาคารกลางเร่งตัวขึ้นหลังจากที่สหรัฐและพันธมิตรประกาศอายัดทุนสำรองในต่างประเทศของ "รัสเซีย" เมื่อปี 2565 หลังจากการทำสงครามรุกรานยูเครน
อย่างไรก็ดี นิโคลัส แฟรปเปลล์ หัวหน้าฝ่ายตลาดสถาบันของ ABC Refinery กล่าวว่า การเลือกจีนก็เป็นการได้อย่างเสียอย่างเช่นกัน เพราะหากประเทศต่างๆ เลือกที่จะเก็บทองคำไว้ในจีน พวกเขาก็จะต้องทิ้งความสะดวกสบายต่างๆ และสภาพคล่องที่ลอนดอนมีให้
ที่มา: Bloomberg
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







