สหรัฐคุมเข้มตัวแทนอิหร่าน มาประชุม UNGA นิวยอร์กห้ามชอปปิง!

สหรัฐจำกัดการเคลื่อนไหวของตัวแทนอิหร่านที่มาประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติในนิวยอร์ก ห้ามเข้าร้านค้าส่งและร้านแบรนด์เนม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ตามที่ผู้นำโลกต้องมารวมตัวกันที่นิวยอร์กทุกเดือน ก.ย. เพื่อแสดงสุนทรพจน์ในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) ซึ่งกินเวลาหลายวัน การประชุมครั้งที่ 80 ปีนี้ เริ่มต้นขึ้นในวันอังคาร (23 ก.ย.)
นายทอมมี พิกอตต์ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงว่า
นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวการต่างประเทศสหรัฐ สั่งให้ตัวแทนอิหร่าน เดินทางไปกลับระหว่างโรงแรมกับสำนักงานยูเอ็นเพื่อปฏิบัติราชการเท่านั้น
มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมาย “เพิ่มแรงกดดัน” ต่อผู้นำศาสนาของอิหร่านที่ให้อำนาจตัวแทนมาเริงร่าชอปปิงหรูในต่างแดน ขณะที่ประชาชนต้องเผชิญกับ “ความยากจน โครงสร้างพื้นฐานย่ำแย่ ไร้น้ำ ไร้ไฟฟ้า”
สำนักงานยูเอ็นตั้งอยู่ในมิดทาวน์แมนฮัตตัน ก่อนมีข้อจำกัดใหม่ ตัวแทนอิหร่านได้รับอนุญาตให้เดินทางได้ระหว่างยูเอ็น สำนักงานการทูตอิหร่าน ทำเนียบทูตอิหร่านประจำยูเอ็น และสนามบินนานาชาติจอห์น เอฟ เคนเนดี ในย่านควีนส์ของนิวยอร์กซิตี้
“ความปลอดภัยของชาวอเมริกันยังคงมีความสำคัญอันดับหนึ่ง” นายพิกอตต์กล่าวและว่า สหรัฐจะไม่ยอมให้ระบอบอิหร่านใช้การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติขยาย “วาระของผู้ก่อการร้าย” หรือเริงร่ากับสิทธิพิเศษที่ไม่ยอมให้กับประชาชนของตนเอง
“มาตรการเหล่านี้เป็นการส่งสารชัดเจนว่า สหรัฐยืนเคียงข้างประชาชนอิหร่านในการแสวงหาความโปร่งใสตรวจสอบได้และอนาคตที่ดีกว่า” รองโฆษกย้ำ
ด้านกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านไม่ได้ให้ความเห็นต่อข้อจำกัดของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ
ทั้งนี้ เศรษฐกิจถือเป็นความท้าทายสูงสุดของผู้นำศาสนาที่ปกครองอิหร่าน พวกเขาเกรงว่าการประท้วงของผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้น้อยที่ไม่พอใจกับความยากจนเพราะถูกคว่ำบาตร การบริหารจัดการผิดพลาด และการทุจริต ที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ปี 2017 จะปะทุขึ้นมาอีก
แม้ไม่ไว้ใจสหรัฐและโดยเฉพาะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เป็นอย่างมาก รัฐบาลเตหะรานก็กังวลเพิ่มขึ้นทุกขณะว่า หากประชาชนไม่พอใจเรื่องความยากลำบากทางเศรษฐกิจมากเข้าก็อาจสั่นคลอนอำนาจผู้นำได้
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมแม้ผู้นำศาสนาของอิหร่านจะมีจุดยืนแข็งกร้าวต่อหน้าสาธารณชน แต่เตหะรานกลับต้องการใช้การทูตแก้ไขข้อพิพาทโครงการนิวเคลียร์กับชาติตะวันตกที่ยืดเยื้อมานานหลายทศวรรษ
สหรัฐ พันธมิตรยุโรป และอิสราเอลกล่าวหาว่า เตหะรานต้องการมีอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเตหะรานปฏิเสธมาโดยตลอด
ความตึงเครียดระหว่างเตหะรานกับวอชิงตันเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือน มิ.ย. เมื่อสหรัฐร่วมกับอิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่านระหว่างสงคราม 12 วัน ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน
ตอนนี้ผู้นำศาสนาที่ปกครองอิหร่านกังวลมากขึ้นทุกขณะด้วยมองเจตนารมณ์ของทรัมป์ว่าต้องการโค่นล้มอิหร่าน เนื่องจากทรัมป์เร่ง “เพิ่มแรงกดดัน” มากกว่าตอนที่ดำรงตำแหน่งวาระแรก ด้วยการคว่ำบาตรเพิ่มจนส่งออกน้ำมันไม่ได้เลย และทำให้เศรษฐกิจอิหร่านที่เปราะบางอยู่แล้วต้องล่มสลาย







