สัญญาณดี! รมว.พาณิชย์อินเดียบินเจรจาการค้าวอชิงตัน 22 ก.ย.

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ตามที่เมื่อวันที่ 16 ก.ย. คณะผู้แทนสหรัฐนำโดยนายเบรนดัน ลินช์ ผู้ช่วยผู้แทนการค้าสหรัฐประจำภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียกลาง ได้พบกับเจ้าหน้าการค้าอินเดียนำโดยนายราเชฐ อักราวัล หัวหน้าคณะเจรจาที่กรุงนิวเดลี หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีท่าทีอ่อนลง จากที่เคยเก็บภาษีก้อนโตกับอินเดียเพื่อลงโทษที่ซื้อน้ำมันรัสเซีย

รัฐบาลอินเดีย กล่าวว่า การเจรจาในวันอังคารที่ผ่านมาเป็นไปอย่าง “สร้างสรรค์” และ “มองไปข้างหน้า”ล่าสุดทางการอินเดียออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ (20 ก.ย.)

“คณะผู้แทนวางแผนเดินหน้าการหารือโดยมุ่งหวังบรรลุข้อตกลงการค้าที่เป็นประโยชน์ร่วมกันโดยเร็วที่สุด” โดยนายพิยุส โกยาล รัฐมนตรีการค้าอินเดีย เตรียมเยือนวอชิงตัน 22 ก.ย.นี้

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ฝ่ายอินเดียจะหารือเรื่องที่รัฐบาลทรัมป์ขึ้นค่าธรรมเนียมวีซ่า H1B และเรียกร้องให้ลดซื้อน้ำมันอินเดีย หรือเปิดภาคเกษตรกรรมและผลิตภัณฑ์ให้บริษัทสหรัฐ อันเป็นข้อเรียกร้องหลักจากรัฐบาลวอชิงตันหรือไม่

เมื่อวันศุกร์ (19 ก.ย.) รัฐบาลทรัมป์ได้ออกคำสั่งฝ่ายบริหาร กำหนดให้บริษัทต่างๆ ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่า H1B ปีละ 100,000 ดอลลาร์ เริ่มมีผลตั้งแต่เที่ยงคืนวันเสาร์ (20 ก.ย.) เป็นความเคลื่อนไหวที่อินเดียกล่าวว่า จะส่งผลกระทบมหาศาลต่ออุตสาหกรรมบริการไอทีของอินเดีย

ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค. ทรัมป์เก็บภาษีสินค้าอินเดียอีก 25% ส่งผลภาษีรวมอยู่ในอัตรา 50% ส่วนหนึ่งของมาตรการกดดันรัสเซียที่รุกรานยูเครน

ส่วนแผนการที่คณะตัวแทนสหรัฐเยือนกรุงนิวเดลีระหว่างวันที่ 25-29 ส.ค. ต้องยกเลิกไปเนื่องจากการเจรจาไม่คืบหน้า อินเดียไม่ยอมเปิดตลาดภาคเกษตรและผลิตภัณฑ์นมอย่างที่สหรัฐต้องการ

ตัวเลขการส่งออกของอินเดียไปยังสหรัฐลดลงในเดือน ส.ค. มาอยู่ที่ 6.86 พันล้านดอลลาร์ จาก 8.01 พันล้านดอลลาร์ในเดือน ก.ค.

ผู้ส่งออกเตือนว่า ผลกระทบทั้งหมดจากการขึ้นภาษีจะเกิดขึ้นในเดือน ก.ย. เมื่อภาษีใหม่มีผลบังคับใช้