บลูมเบิร์กชี้ 'เวียดนามกดค่าเงินดอง' งัดกลยุทธ์เก่า พยุงส่งออกในยุคทรัมป์

สื่อนอกชี้ 'เวียดนาม' กำลังควบคุมค่าเงินดองให้อ่อนค่าลง ขณะที่ภาษีศุลกากรของสหรัฐคุกคามการส่งออกที่เป็นหัวใจสำคัญของประเทศ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า "เวียดนาม" กำลังงัดกลยุทธ์เก่ามาใช้กับการทำให้ "ค่าเงินดอง" อ่อนค่าลง เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันเหนือประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่หลายประเทศกำลังมองหาวิธีบรรเทาผลกระทบจากมาตรการภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์
ข้อมูลที่รวบรวมโดยบลูมเบิร์กพบว่า ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ได้กำหนดค่าเงินดองให้อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องในปีนี้ เมื่อพิจารณาจากข้อมูลการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงของทางการเวียดนาม อัตราอ้างอิงรายวันของคู่เงิน "ดอลลาร์-ดอง" เพิ่มขึ้นประมาณ 3.5% ในปี 2568 ซึ่งคาดว่าเป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบปีนับตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา
ค่าเงินดองของเวียดนามกำลังอ่อนค่าลง และซื้อขายใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยทำไว้เมื่อเดือนสิงหาคม โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าค่าเงินดองจะยังคงอ่อนค่าลงอีก เนื่องจากเชื่อว่าธนาคารกลางเวียดนามจะยังคงรักษาแนวโน้มค่าเงินที่อ่อนค่าลง
ทั้งนี้ เวียดนามซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจด้านการส่งออกที่จำหน่ายสินค้าทุกประเภท ตั้งแต่กาแฟ เสื้อผ้า ไปจนถึงชิ้นส่วนเครื่องยนต์ กำลังเผชิญกับอัตราภาษีศุลกากรของสหรัฐที่ 20% ซึ่งสูงกว่าเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง "อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย"
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเวียดนามก็จำเป็นต้องรักษาสมดุลให้ดีในการใช้นโยบายการเงิน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากสหรัฐ ซึ่งโดยปกติแล้วกระทรวงการคลังสหรัฐจะมีการออกรายงานประจำปีเพื่อตรวจสอบว่าประเทศคู่ค้าของตนมีการแทรกแซงค่าเงินเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้าหรือไม่ และเวียดนามเองอยู่ในรายชื่อประเทศที่ต้องจับตามอง (Monitoring list) ในแง่ของการปั่นค่าเงินอยู่
“การอ่อนค่าของเงินดองอย่างค่อยเป็นค่อยไปจะช่วยให้เวียดนามค่อยๆ ฟื้นคืนความสามารถในการแข่งขันทางการค้าในตลาดสหรัฐ” ดาร์เรน เทย์ หัวหน้าฝ่ายบริหารความเสี่ยงประเทศในเอเชียแปซิฟิกของ BMI ในเครือ Fitch Solutions กล่าว
เทย์คาดการณ์ว่าค่าเงินดองจะอ่อนค่าลงอยู่ที่ 27,000 ดองต่อดอลลาร์ ภายในสิ้นปี 2568 ขณะที่ธนาคารเมย์แบงก์คาดการณ์ว่า ค่าเงินดองจะอ่อนค่าลงเหลือ 26,600 ดองต่อดอลลาร์ภายในเดือนธ.ค. จากระดับ 26,379 ดอลลาร์ เมื่อวันวันพฤหัสบดีที่ 18 ก.ย. และจะลงไปแตะระดับ 26,700 ดอลลาร์ ในไตรมาสแรกของปี 2569
ด้านเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางเวียดนามยังไม่ตอบรับการขอความเห็นต่อรายงานข่าวนี้ ขณะที่รองผู้ว่าการแบงก์ชาติเวียดนาม ฝ่าม ทันห์ ฮา เคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่า ทางการเวียดนามจะยังคงบริหารจัดการค่าเงินดองอย่างยืดหยุ่น และใช้เครื่องมือนโยบายการเงินเพื่อรักษาเสถียรภาพตลาดอัตราแลกเปลี่ยนต่างประเทศ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและควบคุมเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ กลยุทธ์ค่าเงินของเวียดนามไม่ใช่เรื่องใหม่ "จีน" ซึ่งเป็นประเทศที่บริหารจัดการค่าเงินของตนเช่นกัน ก็เคยปล่อยให้ "ค่าเงินหยวน" อ่อนค่าลงจนทะลุระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์มาแล้วในปี 2562 ในช่วงสงครามการค้าครั้งแรกของยุคทรัมป์ 1.0







