เปิดลิสต์ซีอีโอดังร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ‘ทรัมป์-คิงชาลส์’

สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร พระราชทานอาหารเลี้ยงอาหารค่ำแด่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ณ พระราชวังวินด์เซอร์ ในวันพุธ (17 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น 

“วันนี้ เมื่อทรราชย์คุกคามยุโรปอีกครั้ง เราและพันธมิตรยืนหยัดร่วมกันสนับสนุนยูเครนป้องปรามการรุกราน” กษัตริย์ชาลส์ตรัสขณะทรงยกแก้วดื่มอวยพร ปิดฉากภารกิจวันแรกที่ตั้งใจเสริมแกร่งให้กับความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐและสหราชอาณาจักรท่ามกลางบททดสอบด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง

“ในการมุ่งมั่นเพื่อโลกที่ดีกว่า เรายังมีโอกาสอันล้ำค่าที่จะปกป้องและฟื้นฟูความมหัศจรรย์และความงามของธรรมชาติให้กับคนรุ่นหลังของเรา” พระองค์ตรัสต่อ ระหว่างนั้นทรัมป์พยักหน้าตาม แต่ความเห็นของพระองค์ในสองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทรัมป์เห็นต่าง นี่ถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ เพราะงานพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำจัดขึ้นเพื่อสร้างความประทับใจให้กับทรัมป์ และโดยปกติแล้ว กษัตริย์มักจะหลีกเลี่ยงการตรัสถึงเรื่องการเมือง

คิงชาลส์เน้นย้ำเรื่องสายสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างสองชาติ และทรงเป็นอีกคนหนึ่งที่ตรัสถึงความรักในกีฬากอล์ฟของทรัมป์

“ข้าพเจ้าเข้าใจว่าผืนแผ่นดินอังกฤษมีสนามกอล์ฟที่งดงามมาก” พระองค์ตรัสโดยอ้างอิงถึงทรัพย์สินของทรัมป์ในสหราชอาณาจักร

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รายละเอียดของงาน เช่น วงออร์เคสตราเครื่องสายที่บรรเพลงโปรดของทรัมป์จากเอลตัน จอห์นและวงโรลลิงสโตนส์ และไวน์โปรตุเกสปี 1945ได้รับเลือกให้เป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 แสดงให้ถึงความพยายามเอาอกเอาใจทรัมป์

อย่างไรก็ตาม รายชื่อแขกที่เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำสะท้อนให้เห็นถึงงานที่รออยู่ข้างหน้าสำหรับทรัมป์และนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ซึ่งมีกำหนดจะพบกันในวันพฤหัสบดี (18 ก.ย.) ในขณะที่ทั้งสองพยายามเสริมสร้าง “ความสัมพันธ์พิเศษ” ระหว่างประเทศของพวกเขา

แขกคนดัง 160 คน อาทิ ทิม คุก ซีอีโอแอปเปิ้ล, เจน เฟรเซอร์ ซีอีโอซิตี้กรุ๊ป, เจนเซน หวง ซีอีโอเอ็นวิเดีย, สตีฟ ชวาร์ซแมน ซีอีโอแบล็กสโตน, เรเน แฮส ซีอีโออาร์ม, และเจ้าพ่อสื่อรูเพิร์ต เมอร์ด็อก

ทางการสหรัฐและสหราชอาณาจักรวางแผนประกาศข้อตกลงทางเศรษฐกิจมูลค่าหลายพันล้านปอนด์ในระหว่างการเยือนครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การสร้างศูนย์ข้อมูลเอไอและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพื่อสนับสนุนโครงการดังกล่าว รัฐบาลสหราชอาณาจักรกำลังส่งเสริมแพ็คเกจการลงทุนมูลค่า 150,000 ล้านปอนด์ (205,000 ล้านดอลลาร์) ซึ่งรวมถึง 90,000 ล้านปอนด์จากแบล็กสโตน ขณะที่ไมโครซอฟท์, โอเพนเอไอและบริษัทอเมริกันอื่นๆ ระบุว่าพวกเขาจะใช้งบประมาณหลายหมื่นล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีในสหราชอาณาจักร

ส่วนทรัมป์เตรียมประกาศข้อตกลงทางเศรษฐกิจใหม่มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์รวมถึงความพยายามอื่นๆ ในการปรับสมดุลภาคการเงินของประเทศ GSK Plc บริษัทผลิตยาของอังกฤษให้คำมั่นที่จะลงทุน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ในสหรัฐในอีกห้าปีข้างหน้า