ชงตั้ง 'กองทุน 8 หมื่นล้านบาท' พยุงตลาดอสังหาฯ ฮ่องกง ดิ่งเหว

ชงตั้ง 'กองทุน 8 หมื่นล้านบาท' พยุงตลาดอสังหาฯ ฮ่องกง ดิ่งเหว

ตลาดอสังหาฯ ฮ่องกงเผชิญ ‘วิกฤติหนัก’ ทั้งราคาพื้นที่สำนักงาน–ค้าปลีกดิ่งเกือบครึ่ง หนี้เสียจ่อพุ่งสูงสุดรอบ 20 ปี จนสมาคมอสังหาฯ ต้องเร่งเร้าให้รัฐบาลตั้งกองทุน 80,000 ล้านบาท พยุงตลาดรับมือ ‘ผลกระทบลูกโซ่’

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สมาคมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์แห่งฮ่องกง เรียกร้องให้รัฐบาลจัดตั้ง “กองทุน” มูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 80,000 ล้านบาท เพื่อเข้าลงทุนในทรัพย์สินที่ประสบปัญหา ในการป้องกันความเสี่ยงทางระบบการเงิน

สมาคมฯ ซึ่งเป็นตัวแทนของ Hong Kong and International Chapter of the China Real Estate Chamber of Commerce ให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์กว่า ภาวะซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในฮ่องกง กำลังทำให้สินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มสูงขึ้น เกิดการขายทรัพย์สินแบบถูกบังคับ อีกทั้งนักพัฒนา และนักลงทุนต่างก็ประสบปัญหาสภาพคล่อง หากสถานการณ์ดำเนินต่อไป อาจกระทบต่อสถานะของฮ่องกง ในฐานะศูนย์กลางการเงินนานาชาติ

“นี่เป็นวงจรอุบาทว์ ธนาคารถูกบังคับให้ขายสินทรัพย์ในราคาถูก” ชาร์ลส์ แลม ประธานของสมาคมฯ กล่าว พร้อมเสริมว่า การที่ธนาคารไม่เต็มใจปล่อยกู้ด้านอสังหาฯ ส่งผลให้เกิดวิกฤติสภาพคล่องแก่นักลงทุน และท้ายที่สุด จะทำให้โครงการพัฒนาใหม่ ๆ ลดลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

“เรากังวลว่า นี่จะสร้างผลกระทบลูกโซ่ต่อตลาด และอาจทำให้ภาคการเงิน และอสังหาริมทรัพย์ล่มสลาย” แลม กล่าว

บนเว็บไซต์ของสมาคมระบุว่า สมาชิกประกอบด้วยนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ผู้จัดการกองทุน และผู้พัฒนาโครงการ อาทิ Hongkong Land Holdings, Link Asset Management และ Sino Land

ทางหอการค้าฯ เสนอให้จัดตั้งกองทุนเริ่มต้นวงเงิน 20,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง โดยมีรัฐบาลหรือหน่วยงานกึ่งรัฐเป็นผู้ลงทุนเงิน และเสนอให้หน่วยงานสาธารณะ เช่น สำนักงานการเงินฮ่องกง (Hong Kong Monetary Authority) และ Hong Kong Mortgage Corporation เข้าร่วมลงทุนคิดเป็น 25% ของทุนตั้งต้น อีก 25% มาจากนักลงทุนสถาบัน และที่เหลืออีก 50% เปิดให้ประชาชนทั่วไปลงทุน

หอการค้าฯ ระบุเพิ่มเติมว่า กองทุนดังกล่าวอาจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในอนาคต โดยแลมเปรียบเทียบว่า แนวคิดนี้คล้ายกับ Tracker Fund of Hong Kong ที่รัฐบาลตั้งขึ้นหลังจากเข้าซื้อหุ้นฮ่องกงในช่วงวิกฤติการเงินเอเชียปี 1998 เพื่อรักษาเสถียรภาพตลาด

ทั้งนี้ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ เริ่มออกมาเรียกร้องให้ภาครัฐดำเนินมาตรการฟื้นฟูตลาดอสังหาฯ เชิงพาณิชย์มากขึ้น 

ขณะที่หลุยส์ ลุง สมาชิกสภานิติบัญญัติผู้แทนภาคอสังหาฯ เสนอให้รัฐบาลพิจารณาเปลี่ยนที่ดินเชิงพาณิชย์บางส่วน ให้เป็นโครงการที่อยู่อาศัยหรือโครงการผสมผสาน เพื่อช่วยลดปัญหาซัพพลายล้นตลาด

ตามการประมาณการของฟิทช์ เรทติ้งส์ ระบุว่า สินเชื่อด้อยคุณภาพของฮ่องกงพุ่งขึ้นสู่ 25,000 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี คิดเป็น 2% ของสินเชื่อรวมทั้งหมด

ตัวเลขดังกล่าวอาจเพิ่มเป็น 2.3% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งถือเป็นอัตราการเพิ่มสูงที่สุดในเอเชียแปซิฟิก และคุณภาพสินเชื่อมีแนวโน้มแย่ลงต่อเนื่องไปถึงปี 2026

ในอีกด้านหนึ่ง ราคาหน่วยสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกในฮ่องกง ได้ร่วงลงจากจุดสูงสุดปี 2018 สูงถึง 48% และ 41% ตามลำดับ จากข้อมูลรัฐบาล ทำให้มูลค่าหลักทรัพย์ค้ำประกันสินเชื่อของหลายธนาคารหดตัวลง
 

 

อ้างอิง: bloomberg

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์