จีนเร่งส่งออกเหล็ก ‘ทุบสถิติโลก’ แม้โดนภาษีหนัก แต่ยอดยังทะยาน

การส่งออก ‘เหล็กของจีน’ ปีนี้ มีแนวโน้มทำสถิติ 'สูงสุดในประวัติศาสตร์' แม้เจอกำแพงภาษีทั่วโลก สะท้อนการเร่งระบายเหล็กส่วนเกินในประเทศหลังดีมานด์ภายในอ่อนตัว ผู้ผลิตหันเจาะตลาดใหม่ตั้งแต่ตะวันออกกลางถึงแอฟริกาเหนือ
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า การส่งออกเหล็กของจีน มีแนวโน้ม “ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์” ในปีนี้ ซึ่งดูเหมือนผิดคาดจากที่หลายคนเคยมองว่า อุปสรรคการค้าน่าจะฉุดให้ปริมาณการส่งออกลดลง
บรรดานักวิเคราะห์ 11 รายคาดว่า การส่งออกเหล็กจีนจะเติบโตขึ้น 4-9% ในปีนี้ สู่ระดับระหว่าง 115-120 ล้านตัน ทั้งที่เมื่อต้นปี พวกเขาล้วนคาดว่าปริมาณส่งออกจะลดลง
ในการส่งออกเหล็กในระดับสูงสุดจากจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กมากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งโลก สะท้อนถึงความจำเป็นที่ผู้ผลิตและผู้ค้าจีนต้องหาตลาดใหม่สำหรับเหล็กที่ไม่สามารถขายได้ในประเทศ หลังจากการบริโภคภายในถึงจุดสูงสุดในปี 2020 ก่อนที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะล่ม
จีนจึงเร่งส่งออกเหล็กไปทั่วโลก และนี่ได้กระตุ้นให้ประเทศต่าง ๆ ขึ้นกำแพงภาษีป้องกัน โดยตามข้อมูลของ China Trade Remedies Information นับตั้งแต่ปี 2024 มีการออกมาตรการภาษีและกีดกันเหล็กจากจีนแล้วราว 54 รายการ ซึ่งมากกว่าช่วงปี 2019-2023 รวมกัน
สหภาพยุโรปกล่าวเมื่อต้นเดือนนี้ว่า จะหาวิธีใหม่ ๆ เพื่อลดการนำเข้าเหล็ก ขณะที่เม็กซิโกก็ประกาศแผนขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน รวมถึงเหล็กเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของจีนอย่าง Baoshan Iron & Steel เปิดเผยว่า การขนส่งไปยังตลาดเกิดใหม่ใน “ตะวันออกกลาง เอเชียกลาง และแอฟริกาเหนือ” กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคาดการณ์ว่าปีนี้จะส่งออกได้ถึง 10 ล้านตัน
การส่งออกเหล็กของจีนไปยังซาอุดีอาระเบีย มาเลเซีย และไทย เพิ่มขึ้น 24%, 14% และ 13% ตามลำดับในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้เมื่อเทียบกับปีก่อน
ส่วนการส่งออกไปยังคู่ค้ารายใหญ่อย่างเวียดนามและเกาหลีใต้ ซึ่งต่างก็ใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดเช่นกัน ได้ลดลง 20% และ 10% ตามลำดับในช่วง 7 เดือนแรก ตามข้อมูลจากสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีน (CISA) ที่เผยแพร่ในปลายเดือนสิงหาคม
“ตลาดนี้โหดร้ายสำหรับพวกเราเหล่าพ่อค้า… ตอนนี้แทบไม่มีออเดอร์จากเวียดนามและเกาหลีใต้เลย เราไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหาตลาดใหม่แล้ว” พ่อค้าส่งออกเหล็กจากจีนตะวันออกรายหนึ่งกล่าวโดยไม่เปิดเผยชื่อ
ตามปกติ จีนจะส่งออกผลิตภัณฑ์เหล็กที่มีมูลค่าสูง แต่ขณะนี้ผู้ผลิตเหล็กหันไปขายสินค้าที่ซับซ้อนน้อยกว่า เช่น “เหล็กบิลเลต” ซึ่งเป็นก้อนโลหะกึ่งสำเร็จรูป เนื่องจากถูกเก็บภาษีน้อยกว่า
สำหรับการส่งออกเหล็กบิลเลตในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ “เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า” เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่การส่งออกเหล็กเส้นก่อสร้าง “พุ่งขึ้น 77%” แต่การส่งออกเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดบางและกว้าง ซึ่งใช้ในการผลิตและมักถูกเก็บภาษี ลดลง 23% ตามข้อมูลศุลกากร
อเล็กซิส เอลเลนเดอร์ นักวิเคราะห์อาวุโสด้านข้อมูลสินค้าขนาดใหญ่ของบริษัท Kpler ระบุว่า การหันมาส่งออกสินค้าที่มีมูลค่าต่ำ และยังไม่ผ่านกระบวนการขั้นสุดท้าย ทำให้ “มูลค่า” การส่งออกของจีนลดลง แม้ว่า “ปริมาณ” การส่งออกจะทำสถิติสูงสุดก็ตาม โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปี ปริมาณส่งออกเหล็กเพิ่มขึ้น 10% แต่มูลค่าเป็นดอลลาร์ กลับลดลง 1% ตามข้อมูลศุลกากร
โทมัส กูติเอร์เรซ หัวหน้าฝ่ายข้อมูลของบริษัทที่ปรึกษา Kallanish Commodities กล่าวว่า
“การเพิ่มขึ้นของการส่งออกกึ่งสำเร็จรูป มักเป็นสัญญาณว่า การส่งออกใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว เพราะกึ่งสำเร็จรูปสามารถทำกำไรได้มากกว่าการส่งออกเหล็กที่ผลิตสำเร็จ นี่สะท้อนถึงตลาดที่กำลังเผชิญแรงกดดัน” โดยเหล็กกึ่งสำเร็จรูป ใช้กระบวนการผลิตและการแปรรูปน้อยกว่าเหล็กที่ทำสำเร็จแล้ว ทำให้ต้นทุนต่ำกว่าและผู้ผลิตสามารถ “ระบายของ” ได้เร็วขึ้น ในช่วงที่ตลาดเริ่มชะลอลง
อ้างอิง: reuters







