IMF มอง ครึ่งปี 2025 เวียดนาม ‘ดาวน์ไซด์’ เพียบ จีดีพีพลาดเป้า 8%

IMF มอง ครึ่งปี 2025 เวียดนาม ‘ดาวน์ไซด์’ เพียบ จีดีพีพลาดเป้า 8%

IMF ประเมินว่าเศรษฐกิจเวียดนามมีความยืดหยุ่น แต่กำลังเผชิญกับความเสี่ยงขาลงจำนวนมาก

KEY

POINTS

  • IMF ประเมินว่าเศรษฐกิจเวียดนามมีความยืดหยุ่น แต่กำลังเผชิญกับความเสี่ยงขาลง
  • IMF ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP เวียดนามลงเหลือ 6.5% ในปีนี้ และ 5.6% ในปีหน้า 
  • ปัจจัยเสี่ยงหลักที่กระทบเศรษฐกิจเวียดนาม ได้แก่ ความไม่แน่นอนทางการค้าโลก, ภาวะการเงินที่ตึงตัวขึ้นทั้งในและต่างประเทศ และหนี้ภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง

เวียดนาม” ถือเป็นหนึ่งประเทศในอาเซียนที่เติบโตอย่างก้าวกระโดยตลอดหลายปีที่ผ่านมาจากการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานในประเทศอย่างจริงจังตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ล่าสุดทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกรายงานฉบับย่อรวบรวมความคิดเห็นของคณะกรรมการของไอเอ็มเอฟต่อเศรษฐกิจเวียดนาม หรือ “Article IV Consultation” ซึ่งประชุมกันไปเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา (แต่เผยแพร่วันที่ 15 ก.ย.) ว่า เศรษฐกิจเวียดนามยังเติบโตอย่างยืดหยุ่นแต่ก็เผชิญความเสี่ยงขาลง (Downside Risks) จำนวนมาก

ในรายงานการประชุมครั้งนี้ ไอเอ็มเอฟปรับคาดการณ์จีดีพีของประเทศในปีนี้ลงเหลือเพียง 6.5% และ 5.6% ในปีหน้า สาเหตุสำคัญของการปรับคาดการณ์ลงคือความไม่แน่นอนในระเบียบการค้าโลกซึ่งกระทบเวียดนามในฐานะประเทศที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก, สภาวะทางการเงินของทั้งโลกที่หดตัว, สภาวะการเงินในประเทศที่ตึงตัวจากสภาวะการเงินโลกที่ติดขัด, และหนี้ของบรรดาภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง

IMF มอง ครึ่งปี 2025 เวียดนาม ‘ดาวน์ไซด์’ เพียบ จีดีพีพลาดเป้า 8% รวบรวมโดยกรุงเทพธุรกิจ

จากความเสี่ยงทั้งหมดไอเอ็มเอฟมีข้อเสนอต่อรัฐบาลเวียดนามทั้งหมดสี่ประเด็นคือ

นโยบายการเงิน:

  1. เพิ่มความยืดหยุ่นของอัตราแลกเปลี่ยน
  2. ปรับปรุงกรอบนโยบายการเงินให้ทันสมัย
  3. พื้นที่ในการผ่อนคลายนโยบายการเงินมีจำกัด

นโยบายการคลัง:

  1. สามารถใช้นโยบายการคลังสนับสนุนเศรษฐกิจได้มากขึ้น หากการเติบโตชะลอตัวอย่างชัดเจน
  2. เสริมสร้างกรอบการคลังระยะกลาง
  3. ปรับปรุงการบริหารการลงทุนสาธารณะและเพิ่มความโปร่งใส

IMF มอง ครึ่งปี 2025 เวียดนาม ‘ดาวน์ไซด์’ เพียบ จีดีพีพลาดเป้า 8% เปรียบเทียบอินดิเคเตอร์เศรษฐกิจเวียดนาม (รวบรวมโดยกรุงเทพธุรกิจ)

ระบบการเงิน:

  1. เสริมสร้างความแข็งแกร่งของภาคการเงิน
  2. สร้างกันชนด้านสภาพคล่องและเงินทุน
  3. ปรับปรุงกรอบการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล

การปฏิรูปโครงสร้าง:

  1. เพิ่มผลิตภาพและปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ
  2. ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเสริมสร้างหลักประกันทางสังคม
  3. ส่งเสริมการกระจายการค้าและลดความไม่สมดุลภายนอก

 

อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟ ระบุว่า เวียดนามยังถือเป็นประเทศที่เติบโตอย่างยืดหยุนตลอดหลายปีที่ผ่านมาและยังมีโอกาสขาขึ้นของเศรษฐกิจอยู่ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนจากจีดีพีในปีที่แล้วเติบโตสูงถึง 7.1% จากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวย ไม่ว่าจะเป็น เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่เติบโต นโยบายที่ส่งเสริมการเติบโต

นอกจากนี้โมเมนตัมการเติบโตยังต่อเนื่องมาจนถึงครึ่งแรกของปี 2025 ที่ขยายตัวได้ 7.5% จากการเร่งส่งออกหนีภาษีทรัมป์ การปล่อยสินเชื่อในประเทศที่ขยายตัว ยอดการใช้จ่ายของรัฐที่ขยายตัวจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน

IMF มอง ครึ่งปี 2025 เวียดนาม ‘ดาวน์ไซด์’ เพียบ จีดีพีพลาดเป้า 8% เปรียบเทียบเม็ดเงินลงทุนภาครัฐ, เอกชน, และจีดีพี (รวบรวมโดยกรุงเทพธุรกิจ)

จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมดทำให้เงินเฟ้อขยายตัว 3.6% แม้จะยังต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาลก็ตาม ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัด (Account Surplus) เกินดุลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 6.6% ของจีดีพี

ทั้งนี้ ดุลบัญชีเดินสะพัด คือดุลบัญชีที่แสดงเงินที่ไหลเข้าออกประเทศนั้นๆ จากการซื้อขายสินค้าและบริการของประเทศ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ ดุลการค้า (Trade Balance) และดุลบริการ (Service Account) โดยการเกินดุลหมายความว่ามีเม็ดเงินไหลเข้าประเทศมากกว่าไหลออกประเทศ