สหรัฐบรรลุ ‘กรอบข้อตกลง TikTok' กับจีนแล้ว รมว.คลังสหรัฐเผย

สหรัฐบรรลุ ‘กรอบข้อตกลง TikTok' กับจีน ประธานาธิบดีทรัมป์ และสี จิ้นผิง จะอนุมัติข้อตกสุดท้ายลงในวันศุกร์นี้ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผย
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า สหรัฐฯ และจีนได้บรรลุ “กรอบข้อตกลง” สำหรับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียติ๊กต็อก TikTok แล้ว สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเมื่อวันจันทร์ (15 ก.ย.68)
“ข้อตกลงนี้เป็นเรื่องของระหว่างภาคเอกชนสองฝ่าย แต่เงื่อนไขทางการค้าได้ตกลงกันแล้ว” เขากล่าวจากเวทีการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่กรุงมาดริด
ทั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จะหารือกันทางโทรศัพท์ในวันศุกร์เกี่ยวกับเงื่อนไขดังกล่าว ทรัมป์ยังระบุในโพสต์บน Truth Social เมื่อวันจันทร์ว่าได้บรรลุข้อตกลง “กับบริษัท ‘แห่งหนึ่ง’ ที่คนรุ่นใหม่ในประเทศของเราปรารถนาที่จะรักษาไว้เป็นอย่างยิ่ง”
เบสเซนต์ บอกเป็นนัยว่ากรอบข้อตกลงนี้อาจเปลี่ยนแพลตฟอร์มให้สหรัฐเป็นเจ้าของหุ้นควบคุมกิจการ
TikTok ยังไม่ได้ตอบกลับคำขอแสดงความคิดเห็นในทันที
ความเห็นดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการหารือทางการค้ารอบล่าสุดระหว่างสหรัฐฯ และจีน ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศตึงเครียดในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจากมาตรการภาษีและข้อจำกัดทางการค้าอื่นๆ ของทรัมป์
ในขณะเดียวกัน บริษัท ByteDance ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TikTok กำลังเผชิญกับเส้นตายวันที่ 17 กันยายน ที่ต้องขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ ออกไป มิฉะนั้นอาจถูกสั่งปิดให้บริการในประเทศนี้ได้ทันที
เจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เส้นตายดังกล่าวอาจจำเป็นต้องขยายเวลาออกไปเพื่อให้มีเวลาลงนามข้อตกลง แต่จะไม่มีการต่อเวลาแบบไม่สิ้นสุดอีกต่อไป
สภาคองเกรสได้ออกกฎหมายเมื่อปีที่แล้วที่ห้ามผู้ให้บริการแอปสโตร์ เช่น Apple และ Google จำหน่ายแอป TikTok ในสหรัฐฯ เนื่องจากสถานะของ TikTok ที่ถูกจัดให้เป็น “แอปพลิเคชันที่ถูกควบคุมโดยศัตรูต่างชาติ”
แต่ทรัมป์ได้เลื่อนการปิดแอปในเดือนมกราคม โดยลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารที่ให้ ByteDance มีเวลาอีก 75 วันในการทำข้อตกลง การขยายเวลาเพิ่มเติมเกิดขึ้นในรูปแบบของคำสั่งฝ่ายบริหารในเดือนเมษายนและมิถุนายน
ฮาวเวิร์ด ลัตนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในเดือนกรกฎาคมว่า TikTok จะปิดตัวลงสำหรับชาวอเมริกัน หากจีนไม่ให้สหรัฐฯ มีอิสระในการควบคุมแอปวิดีโอสั้นยอดนิยมนี้มากขึ้น
สำหรับประเด็นที่ว่าใครที่จะควบคุมแพลตฟอร์มนี้ ทรัมป์บอกกับฟอกซ์นิวส์ ในเดือนมิถุนายนว่าเขามีกลุ่ม “คนร่ำรวยมาก” ที่พร้อมจะซื้อแอปนี้ และอาจเปิดเผยตัวตนภายในสองสัปดาห์ แต่การเปิดเผยดังกล่าวก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง
ก่อนหน้านี้เขาเคยกล่าวว่าเขาเปิดรับข้อเสนอจาก แลร์รี เอลลิสัน ประธานบริษัท Oracle หรือ อีลอน มัสก์ ซีอีโอTesla ที่ซื้อ TikTok ในสหรัฐอเมริกา Perplexity สตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ ได้ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการ เช่นเดียวกับกลุ่มสนับสนุนอินเทอร์เน็ต Project Liberty ของนักธุรกิจ แฟรงก์ แม็กคอร์ต ตามรายงานของซีเอ็นบีซี ในเดือนมกราคม
ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซี เมื่อปีที่แล้วว่าเขาเชื่อว่าแพลตฟอร์มนี้เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติ แต่ทำเนียบขาวก็เริ่มเปิดบัญชี TikTok ในเดือนสิงหาคม
- ความคืบหน้าครั้งสำคัญ
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าข้อตกลงที่อาจเกิดขึ้นกับแอปโซเชียลมีเดียยอดนิยม ซึ่งมีผู้ใช้งานในสหรัฐฯ 170 ล้านคน ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการเจรจาที่กินเวลานานหลายเดือนระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก ซึ่งพยายามลดความตึงเครียดในสงครามการค้าที่ยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อตลาดโลก
เบสเซนต์ไม่ได้ระบุว่าบริษัทแม่ ByteDance จะโอนการควบคุมเทคโนโลยีพื้นฐานของแอปให้กับผู้ซื้อชาวสหรัฐฯ ที่ไม่เปิดเผยชื่อหรือไม่
ขณะที่ หวัง จิงเทา เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานกำกับดูแลไซเบอร์สเปซของจีน กล่าวว่าข้อตกลงนี้อาจอนุญาตให้ใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงอัลกอริทึม
นอกจาก TikTok แล้ว สหรัฐฯ ยังได้อ้างถึงข้อกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติเพื่อสกัดกั้นการขนส่งเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆ ไปยังจีน และสั่งห้ามสินค้าจีนที่วอชิงตันสรุปว่าอาจถูกนำไปใช้สอดแนมชาวอเมริกันหรือรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง
หลี่ เฉิงกัง หัวหน้าคณะเจรจาการค้าของจีน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าข้อกังวลเหล่านี้ถือเป็น "การกลั่นแกล้งฝ่ายเดียว"
“สหรัฐฯ ไม่สามารถขอให้จีนจัดการกับความกังวลของตนได้ในขณะเดียวกันสหรัฐก็ปราบปรามบริษัทจีนต่อไปได้” หลี่กล่าว
หลี่กล่าวว่าทั้งสองฝ่ายได้บรรลุ “กรอบพื้นฐาน” ในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ TikTok ซึ่งแตกต่างไปจากภาษาที่ฝ่ายสหรัฐฯ ใช้เล็กน้อย







